ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 1/2563 ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับหลากหลายปัจจัยลบ หลักๆ ยังคงผลกระทบจากประเด็น COVID-19 ส่งผลให้ SET Index ลดลง 28.7% (ต่ำสุดในรอบ 21 ปี 9 เดือน) โดยถูกแรงขายจากต่างชาติ ด้วยมูลค่ารวมสูงถึง 1.15 แสนล้านบาท คาดว่า เดือน เม.ย. 63 ความกังวลกิจกรรมทางเศรษฐกิจอาจชะลอลง จากประเด็น COVID-19 บวกกับค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง หลังจากอ่อนค่ามาแล้วราว 8% (YTD) ทำให้ต่าชาติมีโอกาสขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ ส่งผลให้ฟันด์โฟลว์ยังมีโอกาสชะลอการไหลเข้าอยู่
อย่างไรก็ตามในเดือนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของกองทุน SSF เงื่อนไขพิเศษ 18 กองทุน จาก 14 บลจ.ซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นมาได้ถูกเวลา และถือเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ช่วยพยุงตลาดในยามที่ปรับฐานลงมาแรง
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงทำการวิเคราะหุ้นที่เป็นที่นิยมในการลงทุนสำหรับกองทุน SSF เงื่อนไขพิเศษ โดยสังเกตได้ว่าส่วนใหญ่กองทุน SSF เงื่อนไขพิเศษ มีนโยบายการลงทุนคล้ายกับกองทุน RMF และ LTF เดิม
ด้าน บล.กรุงศรีฯ เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ (1 เม.ย.63) ว่า ดัชนีคงแกว่งตัวในกรอบ 1,110-1,135 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลหลายประเทศทั่วโลกที่ออกมารับมือสถานการณ์ COVID-19 แต่ยังมีความกังวลต่อการแพร่ระบาดโดยเฉพาะในฝั่งอเมริกาและยุโรปที่ยังคงเร่งตัวขึ้น ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกพุ่งขึ้นกว่า 8 แสนราย เสียชีวิต 3.8 หมื่นราย และทำให้หลายประเทศใช้มาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมสถานการณ์ ซึ่งส่งผลต่อกิจกรรมและภาวะเศรษฐกิจให้หดตัวแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
นอกจากนี้ยังต้องระวังแรงขายระยะสั้น หลังจากเมื่อวานนี้ดัชนีดีดตัวขึ้นแรงซึ่งจะกดดันต่อภาวะตลาด