ค่าเงินบาท​อ่อน​ค่า​ลง​อยู่​ที่​ 30.62 บาท/ดอลลาร์

เงินบาท

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้​ (9 พ.ย.)​ ที่ระดับ 30.62 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.56 บาท/ดอลลาร์

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส Chief Investment Office บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ (SCBS) เปิด​เผ​ยว่า​ ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้​ (9 พ.ย.)​ ที่ระดับ 30.62 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.56 บาทต่อดอลลาร์ โดย​กรอบเงินบาทระหว่างวันอยู่ระหว่าง​ 30.55-30.75 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับ​กรอบเงินบาทสัปดาห์นี้​ (9-13 พ.ย.) คาดเคลื่อนไหว​ใน​กรอบ​ 30.25-30.75 บาทต่อดอลลาร์​ โดย​สัปดาห์นี้​​แนะนำจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดการเงินหลังทราบผลการเลือกตั้งสหรัฐแล้วส่วนใหญ่ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจไม่ได้น่าสนใจมาก

มีเพียงวันพุธ (11 พ.ย.) ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% และมีความเป็นไปได้ที่จะลดดอกเบี้ยลงเหลือ 0.10% เหมือนธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ถ้าเศรษฐกิจชะลอตัวต่อ

วันพฤหัส (12 พ.ย.)​ ทางการสหรัฐจะประกาศตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ประจำสัปดาห์ (Initial Jobless Claims) ซึ่งคาดว่าจะลดลงมาเหลือระดับ 7.25 แสนตำแหน่ง แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน อย่างไรก็ดี โดยรวมยังมีคนตกงานมากกว่าช่วงก่อนโควิดถึงกว่า 10 ล้านคนในสหรัฐ

แม้เศรษฐกิจในสหรัฐจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง แต่ค่าเงินดอลลาร์กลับไม่ฟื้นตัวเพราะนักลงทุนมีความหวังกับเศรษฐกิจโลกหลังยุคของโดนัลด์ ทรัมป์มากกว่า ขณะที่ในสัปดาห์นี้ต้องติดตามค่าเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ว่าจะแข็งค่าต่ำกว่า 103 เยนต่อดอลลาร์ และยูโร (EUR) ว่าจะสามารถปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 1.20 ดอลลาร์ต่อยูโรได้หรือไม่ และธนาคารกลางทั่วโลกจะมีความเห็นอย่างไรกับการอ่อนค่าของดอลลาร์ในช่วงนี้

สำหรับ​กรอบดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) สัปดาห์นี้อยู่​ที่​ 92.0-93.0จุด ระดับปัจจุบัน 92.2จุด

ส่วนเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นตามสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ ด้วยแรงหนุนจากการซื้อตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างประเทศ 2.3 หมื่นล้านบาทหลังการเลือกตั้งสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าอัตรา​ผลตอบแทน​พันธบัตร​ (บอนด์ยีลด์)​ ของไทยให้ผลตอบแทนที่ไม่ผันผวน แต่ได้รับประโยชน์จากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า สัปดาห์นี้ต้องระวังทิศทางของตลาดทุนว่าจะมีปัญหาการเมืองเข้ามากดดันบ้างหรือไม่เนื่องจากโดนัลด์ ทรัมป์ยังไม่ยอมแพ้ ขณะที่ตลาดก็มีโอกาสถูกขายทำกำไรเนื่องจากปรับตัวขึ้นมาแรงต่อเนื่องในสัปดาห์ก่อนเช่นกัน