สรรพากรหนุนความเสมอภาคการศึกษา บริจาคเงินได้ลดหย่อนภาษี 2 เท่า

สรรพากร

กรมสรรพากรชี้ ครม.ไฟเขียวขยายเวลามาตรการภาษีสนับสนุนผู้บริจาคให้แก่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ผ่านระบบ e-Donation ถึง 31 ธ.ค. 2566 หักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ช่วยผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา

วันที่ 2 กรกฎาคม 2564 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (มาตรการภาษีสำหรับการบริจาคให้แก่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา) ตามที่กรมสรรพากรเสนอ

ซึ่งเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่กำหนดให้รัฐใช้มาตรการหรือกลไกทางภาษีให้ ผู้บริจาคทรัพย์สินเข้ากองทุน ได้รับประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีด้วย เพื่อช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา และเสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครู โดยมีหลักการสรุปได้ ดังนี้

เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ

1.บุคคลธรรมดาที่บริจาคเงินให้แก่กองทุน สามารถหักลดหย่อนได้เป็นจำนวนสองเท่าของจำนวนเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาตามโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนอื่น ๆ แล้ว

2.บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่กองทุน สามารถหักเป็นรายจ่ายได้เป็นจำนวนสองเท่าของรายจ่ายที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายที่จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่าย เพื่อสนับสนุนการศึกษาตามโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ และรายจ่ายที่จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างและการบำรุงรักษาสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของเอกชนที่เปิดให้ประชาชนใช้เป็นการทั่วไปโดยไม่เก็บค่าบริการใด ๆ หรือสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของทางราชการแล้วต้องไม่เกินร้อยละสิบของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา ตามมาตรา 65 ตรี (3) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร

ทั้งนี้ ผู้ที่บริจาคให้แก่กองทุน ตามข้อ 1 และ 2 จะต้องบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566

ทั้งนี้ กรมสรรพากรหวังเป็นอย่างยิ่งว่า มาตรการภาษีข้างต้นจะช่วยจูงใจให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนงบประมาณหรือเงินทุนทางการศึกษา เพื่อให้เด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนได้รับการสนับสนุนทางการศึกษาจนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ตลอดจนเพิ่มโอกาสในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ซึ่งเป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศให้มีคุณภาพ อันจะนำไปสู่การพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161