เงินบาทกลับมาแข็งค่า จับตา 4 ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า

เงินหุ้น

เงินบาทแข็งค่ากลับมาปลายสัปดาห์ แต่กรอบขาขึ้นของหุ้นไทยถูกจำกัดจากความกังวลต่อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน จับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า ทั้งรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนพ.ย. ของไทย ทิศทางเงินลงทุนของต่างชาติ สถานการณ์โควิด-19 และการปิดงบการเงินช่วงสิ้นปี

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทอ่อนค่าสุดรอบ 2 สัปดาห์ที่ 33.84 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนฟื้นตัวกลับมาบางส่วนปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงแรกตามค่าเงินหยวน หลังธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR อายุ 1 ปีลงเพื่อหนุนเศรษฐกิจจีนในภาพรวม ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความกังวลต่อการระบาดของโอมิครอน

อย่างไรก็ดีเงินบาทลดช่วงอ่อนค่าได้บางส่วนตามสัญญาณฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยงและสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ

ในวันศุกร์ (24 ธ.ค.) เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 33.42 เทียบกับระดับ 33.35 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (17 ธ.ค.)

กราฟเงินบาท-26 DEC

Advertisment

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (27-30 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.00-33.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนพ.ย. ของไทย ทิศทางเงินลงทุนของต่างชาติ และสถานการณ์โควิด-19

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. และดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนธ.ค.ของจีน

ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย หุ้นไทยปิดต่ำกว่าสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,637.22 จุด ลดลง 0.27% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 67,481.17 ล้านบาท ลดลง 13.32% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.01% มาปิดที่ 570.24 จุด

Advertisment

หุ้นไทยร่วงลงแรงช่วงต้นสัปดาห์ทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ท่ามกลางความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ก่อนจะทยอยปรับตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังตลาดตอบรับปัจจัยลบดังกล่าวไปพอสมควรแล้ว ประกอบกับมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการ รวมถึงแรงซื้อหุ้นกลุ่มสื่อสาร จากประเด็นการควบรวมกิจการและการจ่ายเงินปันผลพิเศษ

อย่างไรก็ดีกรอบขาขึ้นของหุ้นไทยถูกจำกัดลงอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์ หลังมีรายงานว่าพบจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดโอมิครอนในประเทศพุ่งสูงขึ้น

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (27-30 ธ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,620 และ 1,600 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,645 และ 1,655 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และการทำ Window Dressing (การปิดงบการเงิน) ช่วงปลายปี

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. ยอดการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. และดัชนี PMI เดือนธ.ค.ของจีน ตลอดจนยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ของญี่ปุ่น