แบงก์เตือน รับกระแสเงินร้อนเข้า-ออกเร็ว ทำเงินบาทผันผวน

เงินบาท เหรียญ ธนบัตร

แบงก์ประเมินกรอบเงินบาทเคลื่อนไหว 32.50-33.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ จับตา “รายงานประชุมเฟด-ตัวเลขความเชื่อมั่น-ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ” ตลาดคาดการณ์เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย-ดึงสภาพคล่องกลับ เตือนระวังกระแสเงินร้อนเข้า-ออกเร็ว หนุนค่าเงินผันผวน

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า (วันที่ 14-18 กุมภาพันธ์ 65) เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.50-33.00บาทต่อดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตาม จะเป็นรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะมีรายละเอียดของการประชุม ซึ่งจะสะท้อนความคิดเห็นของคณะกรรมการเฟดต่อการดำเนินนโยบายการเงิน ทั้งในส่วนของความเร็วในการปรับขึ้นดอกเบี้ย และขนาดของการปรับจะมากกว่า 0.25% มาเป็น 0.50% รวมถึงการลดงบดุล โดยจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าได้

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม จะเป็นตัวเลขความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของยุโรป-เยอรมัน คาดว่าตัวเลขน่าจะออกมาค่อนข้างดี ส่วนในประเทศ จะมีการประกาศตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาสที่ 4/2564 ซึ่งตัวเลขน่าจะดีขึ้น สนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และช่วยเงินบาทได้บ้าง

“สัปดาห์หน้าจะมีคณะกรรมการเฟดออกมาพูด ซึ่งรอดูว่าจะมีส่งสัญญาณอะไรหลังจากรายงานการประชุมออก เพราะเป็นคณะกรรมการโหวต โดยเรามองว่าตลาดไม่ได้กังวลเงินเฟ้อมากตอนนี้ เพราะคาดว่าตัวเลขเดือนก.พ.น่าจะชะลอตัว แต่ตลาดกังวลว่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้ทุกครั้ง และขึ้นครั้งละ 0.50% ทำให้มีโอกาสเห็นบาทแตะ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนประเด็นที่จะลากให้บาทอ่อนค่าได้ คงต้องดูเรื่องของความขัดแย้งยูเครนและรัสเซียว่าจะสามารถเจรจากันได้หรือไม่ หลังจากซ้อมรบเสร็จ”

สำหรับกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ 2565) พบว่า ฟันด์โฟลว์ไหลเข้าสุทธิกว่า 9 หมื่นล้านบาท โดยตลาดหุ้นซื้อสุทธิ 4.2 หมื่นล้านบาท และตลาดพันธบัตร (บอนด์) ซื้อสุทธิอยู่ที่ 4.85 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการซื้อบอนด์ตัวสั้นสุทธิ 4.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเข้ามาเยอะในช่วงเงินบาทหลุดกรอบ 33.00 บาทต่อดอลลาร์

“สัปดาห์หน้าคาดการณ์ว่าฟันด์โฟลว์ยังคงไหลเข้าเป็นบวกทั้งตลาดหุ้นและพันธบัตร เนื่องจากนักลงทุนยังคงซื้อต่อเนื่อง ประกอบกับมีการประกาศตัวเลขผลประกอบการของบริษัท ทำให้นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อได้ ส่วนบอนด์ยังคงเห็นการซื้อในตัวสั้นอยู่”

นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการสายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้าอยู่ที่ 32.50-33.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องติดตามข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต, ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ รายงานการประชุมเฟดรอบเดือนมกราคม ซึ่งตลาดทบทวนแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดจะขึ้นเร็วกว่าที่เคยประเมินไว้เดิม
นอกจากนี้ สถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน และรัสเซีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบอยู่ในความสนใจของตลาดเช่นกัน

ทั้งนี้ เงินบาทแข็งค่านำสกุลเงินภูมิภาคในปีนี้ จากกระแสเงินทุนไหลเข้า ขณะที่นักลงทุนหมุนเงินออกจากหุ้นเทค และหุ้น Growth โดยบางส่วนนำมาพักไว้ในหุ้น Value และหุ้นวัฏจักร หรือแม้แต่หุ้นในตลาดเกิดใหม่ที่มีทิศทางฟื้นตัวจากความหวังเรื่องท่องเที่ยว ขณะที่ธนาคารกลางยังให้น้ำหนักไปที่การสนับสนุนการฟื้นตัว โดยไทยเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับการปรับพอร์ตในรอบนี้

“ควรระวังกระแสเงินร้อนเข้าออกเร็ว ค่าเงินผันผวน และอาจจบรอบเมื่อเฟดใกล้ดึงสภาพคล่องออกจากระบบอย่างจริงจัง ท่ามกลางเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ยังร้อนแรงต่อเนื่อง”