บลจ.กรุงไทย จ่ายปันผลกองทุนรวมอสังหาฯ-โครงสร้างพื้นฐาน 17 มิ.ย.นี้

กรุงไทย เงินบาท

บลจ.กรุงไทย เตรียมจ่ายปันผลและจ่ายลดทุนกองทุนรวมอสังหาฯ-โครงสร้างพื้นฐานไตรมาส 1 ปี 2565 รวม 5 กองทุน กว่า 1,160 ล้านบาท 17 มิ.ย.นี้

วันที่ 14 มิถุนายน 2565 นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่าย ปันผลกองทุนรวมอสังหาฯ-โครงสร้างพื้นฐาน จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2565-31 มี.ค. 2565 และกำไรสะสม จำนวน 4 กองทุน และจ่ายเงินลดทุนจำนวน 1 กองทุน รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 1,160 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายพร้อมกันในวันที่ 17 มิถุนายน 2565 นี้

ชวินดา หาญรัตนกูล
ชวินดา หาญรัตนกูล

สำหรับ 4 กองทุนที่จ่ายเงินปันผล ประกอบด้วย

1.กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี.ทาวน์เวอร์โกรท (CPTGF) ลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดิน และอาคารประเภทสำนักงาน และศูนย์การค้า เป็นระยะเวลา 30 ปี ใน 3 ทำเล ได้แก่ อาคาร ซี.พี ทาวเวอร์ 1 (สีลม) อาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ 2 (ฟอร์จูน ทาวน์) และอาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ 3 (พญาไท) กำหนดจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1900 บาทต่อหน่วย

2.กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท (TTLPF) เป็นการลงทุนในสิทธิการเช่าสิ่งปลูกสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก (บางส่วน) ในโครงการตลาดไท มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 170,033.54 ตารางเมตร กำหนดจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.4220 บาทต่อหน่วย

3.กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลครบุรี (KBSPIF) ลงทุนในผลประโยชน์จากการประกอบกิจการไฟฟ้าของบริษัทผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด ในอัตราร้อยละ 62 ของรายได้ค่าไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กำหนดจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.2380 บาทต่อหน่วย

4.กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) ลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน อันได้แก่ สิทธิที่จะได้รับรายได้ร้อยละ 45 ของรายได้ค่าผ่านทางรวมสุทธิที่จัดเก็บได้จากเส้นทางในปัจจุบันของโครงการทางพิเศษของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 2 โครงการ ได้แก่ ทางพิเศษฉลองรัช และรทางพิเศษบูรพาวิถี กำหนดจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.0870 บาทต่อหน่วย

นอกจากนี้ ยังได้กำหนดจ่ายเงินลดทุน 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGATIF) ลงทุนในรายได้ค่าความพร้อมจ่ายในอนาคตของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 670 เมกะวัตต์ เป็นระยะเวลา 20 ปี โดยกำหนดจ่ายเงินคืนจากการลดทุนจดทะเบียนในอัตรา 0.2120 บาทต่อหน่วย