รถไฟที่จอดอยู่บนสะพานที่ตั้งอยู่เหนือภูมิทัศน์สวยงามราวกับความฝันถูกทิ้งร้างมานานหลายสิบปี แปลงโฉมเป็นโรงแรมที่พักสุดหรูสำหรับ ท่องซาฟารี
วันที่ 10 เมษายน 2565 สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานถึงธุรกิจการท่องเที่ยวใจกลางอุทยานแห่งชาติ ครูเกอร์ ซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศแอฟริกาใต้ มีรถไฟหรูขบวนหนึ่งรอรับผู้โดยสาร แต่ไม่เคยเคลื่อนที่เลยเพราะดัดแปลงเป็นโรงแรมบูติก
ผู้โดยสารมองออกนอกหน้าต่างเห็นอาณาจักรสัตว์ได้ตั้งแต่แสงทองของพระอาทิตย์สาดส่องยามเช้าจนถึงทางช้างเผือกพาดผ่านท้องฟ้ายามราตรี
แขกที่มาพักจะเห็นลิงบาบูนเดินไปมาใต้ตู้โดยสารรถไฟที่จอดนิ่งบนสะพาน ฮิปโปลุยแม่น้ำเบื้องล่าง ส่วนเสือดาวด้อมๆ มองๆ สูดกลิ่นหาแอนทิโลปเป็นอาหารเย็น
ชานชาลาเล็กๆ ที่เพิ่มต่อจากสะพานมีสระน้ำเล็กๆ รูปวงกลมซึ่งกลุ่มคนจะมารวมตัวกันเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นเพื่อจิบน้ำชา สัมผัสสายลมแสนสบายช่วงปลายฤดูร้อน
เสียงคำรามดังก้องกลบเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว พนักงานเสิร์ฟรีบบอกแขกทันที “ฮิปโปครับ” แขกพากันพิงราวกั้นชะโงกดูเพื่อหวังว่าจะเห็นฮิปโปในแม่น้ำซาบีที่กลายเป็นโคลนอยู่ข้างล่าง
ใบหูกลมๆ โผล่พ้นน้ำมาให้เห็น
คาเรน เลน วัย 56 ปี ร้องว่า “น่ารักจัง” เธอมาจากโยฮันเนสเบิร์กเพื่อฉลองวันแต่งงานครบรอบ 30 ปี กับริช สามี
ส่วนชิชิ มูเดา วัย 36 ปี ตัวแทนฝ่ายขาย มาด้วยลุกส์แต่งเล็บสวยงามและหมวกบัคเก็ตของกุชชี กล่าวว่า ได้ประสบบการณ์ ที่นี่ มีบริการที่ดีเยี่ยม ราวกับความฝันกลายเป็นจริง ชอบที่นี่ทุกอย่าง
หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มลูกทัวร์ออกท่องซาฟารีบนรถบรรทุกเปิดโล่งจะได้สัมผัสกับสัตว์ป่าใกล้ๆ ยีราฟ ช้าง ม้าลายในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติจริงๆ ทั้งเคี้ยวหญา เล่นน้ำและบางครั้งกำลังต่อสู้กัน
สะพานที่ตั้งอยู่เหนือภูมิทัศน์สวยงามราวกับความฝันถูกทิ้งร้างมานานหลายสิบปี โรงแรมแห่งนี้ชนะการประกวดราคาในปี 2559 และแปลงโฉมเป็นที่พักสุดหรูด้วยรถไฟที่ไม่เคยออกวิ่ง แต่มีทิวทัศน์มุมสูงให้ชม
ปี 2463 ทางรถไฟสายนี้เป็นเส้นทางเดียวที่มุ่งสู่เมืองครูเกอร์ แต่รถจักรขบวนสุดท้ายแล่นผ่านในปี 2522 หลังจากนั้น ไม่เคยใช้งานอีกเลย
ท่องซาฟารี บนห้องพัก
ด้านเกวิน เฟอร์เรียรา วัย 39 ปี ประธานกรรมการผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวว่าไปที่สุสานรถไฟเพื่อหาตู้โดยสารซึ่งค่อนข้างทรุดโทรม บางคันเคยถูกปล้น การแปลงโฉมตู้รถไฟให้เป็นโรงแรมเป็นการย้อนเวลาหาอดีต ตู้โดยสารรถไฟมีถึงหมายเลข 25 แต่ข้ามหมายเลข 13 ตามความเชื่อแบบโรงแรมเก่า
ตู้โดยสารแต่ละคันมีห้องพักห้องเดียว ผ้าปูเตียงเปลี่ยนใหม่และหมอนวางอยู่บนเตียง แสงอาทิตย์ลอดช่องหน้าต่างเหนืออ่างอาบน้ำและอ่างล้างมือ ระหว่างแปรงฟัน แขกทอดสายตาไปชมวิวทิวทัศน์ในแม่น้ำได้และมีเสื้อคลุมอาบน้ำผ้าไหมแขวนอยู่ใกล้ๆ
พ่อบ้านเตือนแขกว่าชานระเบียงเล็กๆ เปิดได้ แต่ต้องปิดทุกครั้งเพราะลิงค่อนข้างซุกซน พวกมันอาจจะเข้ามาฉวยเอาข้าวของไป เมื่อเจ้าแสนซนขนสีเทาปีนขึ้นมาบนสะพาน พวกมันมองผ่านกระจากหน้าต่างมองแขกนอนบนเตียงด้วยความใคร่รู้ น่ารักก็จริง แต่อย่าหลงกล
ตอนแรกโรงแรมเดอะ ครูเกอร์ ชาลาติ หวังว่าจะให้บริการชาวตะวันตก แต่เมื่อเปิดตัวในเดือน ธ.ค.2563 เป็นจังหวะที่เกิดโรคระบาดจึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวตะวันตกเดินทางไม่ได้ ชาวแอฟริกาใต้จึงจองห้องแทน
ส่วนเอลลา เวสต์ ผู้จัดการฝ่ายจองห้องพักกล่าวว่าหลังจากเปิดบริการเพียงไม่กี่เดือน ห้องทุกห้องจองหมดแล้ว โรงแรมต้องการอัตราค่าห้องพักแบบสากลเพื่อให้โรงแรมดำเนินกิจการต่อไป
ปัจจุบัน ชาวอเมริกันมาพักมากขึ้นเพราะเดินทางสะดวก เนื่องจากโรงแรมอยู่ห่างจากลานลงจอดเครื่องบินเพียง 4 กิโลเมตร
ขณะที่เฟอเรียรากล่าวว่าเมื่อความมืดเข้าปกคลุม รถไฟจะไหวตัวน้อยๆ คอยรับแขกเหรื่ออยู่ด้านในซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ เนื่องจากสะพานมีโครงสร้างเป็นโลหะเกิดการขยายตัวและหดตัว ในช่วงกลางวันความร้อนทำให้โลหะขยายตัว ส่วนตอนกลางคืน อากาศเย็นลง โลหะจะหดตัว จนลูกค้าเอ่ยชมว่าการแกว่งตัวเล็กน้อยทำให้นึกถึงเวลาที่รถไฟเคลื่อนที่
ช่างเป็นการเคลื่อนที่ที่นุ่มนวลมากๆ