
ทีมค้นหาพบร่างกำลังพลผู้เคราะห์ร้ายเพิ่ม 2 ราย รวมเสียชีวิตจำนวน 21 ราย ล่าสุดรวมยอดแล้วเหลืออีก 8 ราย ที่ยังคงสูญหาย
วันที่ 27 ธันวาคม 2565 เวลา 11.30 น.ที่ผ่านมา พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ แถลงสรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ประจำวัน พบร่างกำลังพลเพิ่ม 2 ราย คงเหลือสูญหาย 8 ราย
- พระราชินี ทรงนำทีมแข่งขันเรือใบนานาชาติ เข้าเส้นชัยอันดับ 1
- เปิดตัว “คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท กรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ” ห่างสนามบิน 10 นาที
- พระราชินี เสด็จฯ ส่วนพระองค์ ทรงร่วมวิ่ง CIB RUN 2023 ระยะทาง 10 กิโลเมตร
โดย 2 รายที่พบเพิ่มเมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 ธ.ค. รายแรกได้รับแจ้งจากเรือประมงที่ทำการประมงบริเวณเกาะสัก จังหวัดชุมพร เรือตรวจการณ์ประมง 611 เข้าเก็บกู้ รายที่สองพบในน่านน้ำ จ.ชุมพรเช่นกัน ซึ่งเรือตรวจการณ์ประมงที่ 611 เก็บกู้ ทั้งสองร่างมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือเช่นกัน พร้อมนำเข้าสู่กระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล
สรุปยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 21 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 18 นาย และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 3 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 8 นาย
18 รายชื่อกำลังพลเสียชีวิต ยืนยันตัวบุคคลแล้ว
สำหรับรายชื่อกำลังพลที่เสียชีวิต ซึ่งสามารถเพื่อยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว จำนวน 18 นาย ประกอบด้วย
-
- ว่าที่เรือเอกสามารถ แก้วผลึก
- พันจ่าเอกอัชชา แก้วสุพรรณ
- พันจ่าเอกสมเกียรติ หมายชอบ
- พันจ่าเอกอำนาจ พิมที
- จ่าเอกจักร์พงศ์ พูลผล
- จ่าเอกบุญเลิศ ทองทิพย์
- จ่าเอกชูชัย เชิดชิด
- จ่าโทธวัชชัย สาพิราช
- จ่าตรีสถาพร สมเหนือ
- จ่าตรีนพณัฐ คำวงค์
- จ่าตรีศุภกิจ ทิวาลัย
- จ่าตรีศราวุธ นาดี
- พลทหารอัครเดช โพธิ์บัติ
- พลทหารจิราวัฒน์ ธูปหอม
- พลทหารสิทธิพงษ์ หงษ์ทอง
- พลทหารวรพงษ์ บุญละคร
- พลทหารปรีชา รักษาภักดี
- พลทหารจำลอง แสนแก

วันเดียวกัน พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) นำผู้นำเหล่าทัพ ได้แก่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และคณะนายทหารผู้ใหญ่ ยืนไว้อาลัย-คารวะ กำลังพลเสียชีวิต เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.)

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความเสียใจอย่างที่สุด กับกองทัพเรือและครอบครัวของกำลังพลผู้สูญเสีย ขณะเดียวกันเหตุการณ์นี้นำมาซึ่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความสมัครสมานสามัคคีของกำลังพลที่จะร่วมดำเนินการเพื่อให้เหตุการณ์ดังกล่าวคลี่คลาย และดูแลครอบครัวและการดำเนินการต่าง ๆ ของกองทัพเรือต่อไป” ผบ.ทสส.กล่าว
ตั้ง 2 ประเด็น สอบสวนหาสาเหตุเรืออับปาง
ด้าน พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า มีผู้สูญหายที่ยังหาไม่พบอีก 8 นาย กองทัพเรือจะพยายามค้นหาต่อไป และวันที่ 28 ธ.ค. จะนำร่างผู้เสียชีวิตที่มีการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้วจากประจวบคีรีขันธ์กลับสัตหีบ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพสวดพระอภิธรรมต่อไป
เมื่อถามว่าการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรือหลวงสุโขทับอับปางอย่างไร ผบ.ทร. กล่าวว่า ทางคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นมาสอบสวนเพื่อตรวจสอบหาเหตุว่าเรือสุโขทัยอับปางและจมลงในทะเลเนื่องจากน้ำเข้าเรือจนกำลังพลไม่สามารถรักษาเรือไว้ได้
การสอบสวนแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1.ตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติภายหลังจากที่เรือจมไปแล้ว การปฏิบัติของกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัย การช่วยเหลือต่าง ๆ
2.ขั้นตอนการดำเนินการตั้งแต่เรือจมว่าปฏิบัติตามขั้นตอนถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคิดว่าการสอบสวนได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว จะมีการสรุปผลและนำเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น
สำหรับความคืบหน้าการกู้เรือที่มีคราบน้ำมันไหลออกมา พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า มีการประกาศพื้นที่โดยรอบเรือจม 3 ลำ เป็นพื้นที่เขตภัยพิบัติ กรณีของเรือสุโขทัยคาดว่ามีน้ำมันอยู่จำนวนหนึ่งรั่วไหลออกมา ก็ได้วางแผนเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและนำน้ำมันดังกล่าวขึ้นมา