ปธ.สอบข้อเท็จจริง ‘ป้าทุบรถ’ คาดจนท.ละเลย 28 ก.พ.เรียกเจ้าบ้าน-ตลาดให้ข้อมูลเพิ่ม

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายนิรันดร์ ประดิษฐกุล รองประธานสภากรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเจ้าของบ้านเลขที่ 37/208 ซอยศรีนครินทร์ 55 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.อ้างเหตุความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการตลาดบริเวณปากซอยศรีนครินทร์ 55 ได้เรียกประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ หารือเรื่องดังกล่าวนัดแรกใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

จากนั้นเวลา 15.00 น.นายนิรันดร์ ให้สัมภาษณ์ว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ต้องหาข้อสรุปให้ได้ 3 ประเด็น คือ 1.การขออนุญาตตั้งตลาดทั้ง 5 แห่ง ประกอบด้วย ตลาดสวนหลวง 1 ตลาดเปิ้ล มาร์เก็ต ตลาดยิ่งนรา ตลาดรุ่งวาณิชย์และตลาดร่มเหลือง มีความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่เกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตลาด ตั้งแต่ปี 2545 ให้ครบถ้วน 2.กรณีศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองตามวิธีการชั่วคราวผู้ร้อง คือ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ พร้อมพวก 4 คน และ

3.กรณีการตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้สร้างอาคารพาณิชย์ อาคารที่พักอาศัยรวม ตลาดนัดภายในหมู่บ้านเสรีวิลลาและแก้ไขข้อบัญญัติ กทม.พ.ศ.2532 เอื้อประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่ง น.ส.บุญศรี เป็นผู้ร้อง

“ทั้งนี้ จะให้สำนักงานเขตประเวศรวบเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องส่งมายังคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ภายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ และในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เวลา 14.00 น.คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ จะเชิญเจ้าของบ้าน เจ้าของตลาด และเจ้าหน้าที่ มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และทำการสรุปข้อเท็จจริง รวมถึงแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหา ก่อนสรุปผลเสนอไปยัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายต่อไป ในส่วนผลพิจารณาคดีของศาลปกครองนั้น กทม.จะไม่เข้าไปก้าวล่วงระหว่างพิจารณคดี” นายนิรันดร์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าเบื้องต้นทราบหรือไม่ว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือผู้อำนวยการเขตในกรณีดังกล่าวกี่ราย นายนิรันดร์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบ เพราะเบื้องต้นจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2554 ยังระบุจำนวนไม่ได้

“เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดมาจากความบกพร่องหรือการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ต้องขึ้นอยู่กับการชี้มูลของ ป.ป.ช.ว่าเป็นกรณีใด หากเป็นความผิดทางวินัย ต้องยึดเอาสำนวนของ ป.ป.ช.เป็นสำนวนหลัก หากเป็นความผิดทางอาญา ต้องส่งเรื่องไปที่อัยการ ก่อนจะมีการสั่งฟ้อง หากเป็นความรับผิดทางแพ่ง หน่วยงานต้นสังกัด จะเป็นผู้ดำเนินการทางวินัย และความรับผิดทางแพ่งต่อไป” นายนิรันดร์ กล่าว

ADVERTISMENT

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ แต่งตั้งขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 49 พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการของกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 มีกรรมการ 6 คน ประกอบด้วย นายนิรันดร์ ประดิษฐกุล รองประธานสภา กทม. เป็นประธาน ส่วนกรรมการ ได้แก่ นายบรรลือ สุกใส ผู้ช่วยปลัด กทม. นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) นายอภิรัตน์ ศิวพรพิทักษ์ ส.ก. นายเพ็ชร ภุมมา หัวหน้าศูนย์รับแจ้งทุกข์ กทม.1555 และนางสุรีทิพย์ ศรีนิล นิติกร สำนักเทศกิจ กทม.

 

ADVERTISMENT

 

ที่มา  มติชนออนไลน์