น้ำเขื่อนลำปาว 101% “ไชยา” ลงพื้นที่กาฬสินธุ์ เล็งสร้างอุโมงแก้น้ำท่วมชี-มูล

น้ำเขื่อนลำปาวเต็มแล้ว 101% ของความจุ “ไชยา” รมช. เกษตรฯลุย จ.กาฬสินธุ์ ติดตามสถานการณ์อุทกภัย เล็งสร้างอุโมงระบายน้ำชี-มูล แก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว

วันที่ 8 ตุลาคม 2566 นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชน โดยมีผู้บริหารจังหวัดกาฬสินธุ์และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้การต้อนรับ ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ได้รับอิทธิพลจากหย่อมมรสุมและร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่าน ทำให้มีฝนตกและมวลน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนลำปาวอย่างต่อเนื่อง

แต่ขณะนี้สถานการณ์ปัจจุบันมีแนวโน้มที่ดีขึ้น มีปริมาณน้ำในเขื่อน 2,005 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 101% ของความจุ จึงมีแผนบริหารจัดการโดยระบายน้ำผ่านอาคารระบายน้ำวันละ 25 ล้าน ลบ.ม. เพื่อรักษาเสถียรภาพของตัวเขื่อน และลดผลกระทบจากอุทกภัยพื้นที่ด้านเหนือเขื่อน ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในลำน้ำปาวด้านท้ายเขื่อนมีระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยการมอบถุงยังชีพ ชุดเวชภัณฑ์ พร้อมสนับสนุนฟางอัดก้อน จำนวน 6,000 กิโลกรัม หญ้าสด ถุงยังชีพสำหรับสัตว์ และให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้า (อพยพสัตว์) จำนวน 2,876 ตัว รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหาย และจัดเตรียมข้อมูล เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือ/เฝ้าระวัง/เตรียมรับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

สำหรับแผนแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคอีสานระยะยาว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมาย กรมชลประทาน ในการศึกษาความเป็นไปได้ของแผนการปรับเปลี่ยนทางน้ำ ให้มีการผันน้ำลงแม่น้ำโขง จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย 1) โครงการอุโมงระบายแม่น้ำมูลออกสู่แม่น้ำโขง 2) โครงการสร้างบายพาสแม่น้ำชี-มูล เพื่อเพิ่มพื้นที่ชลประทานและลดปริมาณน้ำสะสมบริเวณคอขวดแม่น้ำ

ปัญหาน้ำท่วมเป็นปัญหาที่ได้รับผลกระทบในวงกว้าง จากที่ได้รับข้อสั่งการจากนายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน) ในการบริหารจัดการน้ำ โดยการวางแผนบริหารจัดการเขื่อนภายในประเทศให้มีความสอดคล้องกัน ซึ่งให้ความสำคัญในการติดตามข้อมูลการพยากรณ์อากาศ เพื่อใช้ในการวางแผนการกักเก็บและระบายน้ำออกจากเขื่อน รวมทั้งลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงในฤดูแล้ง สำหรับวันนี้เราจะลดระดับของบานประตูระบายน้ำให้อยู่ในระดับ 20 ล้าน ลบ.ม./วัน เพื่อชะลอการระบายน้ำไปยังช่วงท้ายเขื่อน

ด้านแผนแก้ไขปัญหาอุทกภัยระยะสั้นในครั้งนี้ จะมีการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการร่วมกันกับทุกภาคส่วน เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาความเดือดร้อนในด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ รวมทั้งเตรียมสนับสนุนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ภาคการผลิต ในการวิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ที่ทนทานทุกสภาพอากาศ เพื่อสร้างโอกาสในการเปิดตลาดสินค้าเกษตรให้สอดคล้องต่อความต้องการของตลาด
พร้อมกันนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนและมอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภคให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ก่อนเดินทางต่อเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณลุ่มแม่น้ำชี ต่อไป