สวนดุสิตโพลสำรวจ คิดเห็นอย่างไร เกี่ยวกับปัญหาเด็กอาชีวะตีกัน

สวนดุสิตโพล เด็กอาชีวะตีกัน

สวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจความเห็น กรณีปัญหาเด็กอาชีวะตีกัน ระบุมาจากการปลูกฝังค่านิยมผิด ๆ มากที่สุด ทุกฝ่ายต้องร่วมมือจริงจัง มีมาตรการ แนวทางป้องกันที่เด็ดขาด

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่องความปลอดภัยในชีวิตของคนไทย ณ วันนี้ กรณีศึกษา “เด็กอาชีวะ” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,161 คน สำรวจระหว่างวันที่ 21-24 พฤศจิกายน 2566

ผลสำรวจพบว่า จากกรณีการทะเลาะวิวาทจนถึงแก่ชีวิตของเด็กอาชีวะที่เกิดขึ้นในช่วงนี้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 87.83 มองว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต้องร่วมมืออย่างจริงจัง มีมาตรการ แนวทางป้องกันที่เด็ดขาด โดยคิดว่าสาเหตุของการทะเลาะวิวาท คือ การปลูกฝังค่านิยมที่ผิด ๆ รักศักดิ์ศรี สถาบัน ร้อยละ 85.50 ด้านการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเด็ดขาด เพิ่มโทษสูงสุด ร้อยละ 74.03

ทั้งนี้ประชาชนดูแลความปลอดภัยของตนเองด้วยการหลีกเลี่ยงเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ร้อยละ 91.62 โดยหน่วยงานที่ควรเข้ามาเร่งแก้ปัญหานี้คือกระทรวงศึกษาธิการ ร้อยละ 88.10 และหากประชาชนมีบุตรหลาน ก็มองว่าไม่อยากให้เรียนต่อสายอาชีวศึกษา ร้อยละ 80.34

นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า การเรียนสายอาชีวศึกษามีความสำคัญต่อตลาดแรงงานไทยอย่างยิ่ง แต่จากสถิติกลับพบว่าผู้สนใจศึกษาต่อในสายอาชีพไม่สูงนัก กอปรกับการรับรู้ข่าวในสื่อต่าง ๆ ก็ยิ่งทำให้ผู้ปกครองมีความวิตกกังวลมากขึ้น

จากผลสำรวจที่ผ่านมาของสวนดุสิตโพล พบว่า สาเหตุของการก่อเหตุทะเลาะวิวาทมุ่งไปที่ความขัดแย้งระหว่างสถาบัน แต่ปัจจุบันกลับพบว่า มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรม สะท้อนให้เห็นถึงขอบข่ายของปัญหาที่กว้างขึ้นและฝังรากลึก ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องเร่งปราบปรามและกระทรวงศึกษาธิการต้องแก้ปัญหาในระยะยาว

ขณะที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปฏิญญา สุขวงศ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า ปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนอาชีวศึกษามีมาอย่างยาวนาน ปัญหาที่เกิดนั้นมีสาเหตุทั้งจากความขัดแย้งส่วนตัว และค่านิยมที่ผิดในเรื่องสถาบันการศึกษา

แนวทางการแก้ปัญหา อาจแบ่งออกเป็น 2 แนวทางหลัก คือ

  1. การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
  2. การป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อตนเอง

โดยการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ได้แก่ ปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องเกี่ยวกับความรักสถาบันการศึกษา การเชิดชู สนับสนุนคนที่ความดี ความสามารถเชิงทักษะอาชีพ เชิงวิชาการ มากกว่าความเด่นดังในเรื่องของพฤติกรรมอันธพาลหรือสร้างความเดือดร้อนแก่สังคม สื่อควรสร้างไอดอลหรือแบบอย่างบุคคลที่ทำความดีมีความสามารถ

ส่วนการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อตนเองนั้นอาจทำได้โดยเฝ้าสังเกตสภาพรอบตัว ไม่เอาตนเองเข้าไปอยู่ในที่เสี่ยงที่ชุมนุมที่อาจเกิดการทะเลาะวิวาท นอกจากนั้น ตำรวจควรบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เร่งจับผู้กระทำผิดมาลงโทษ และเฝ้าระวังเหตุในพื้นที่เสี่ยงอย่างทั่วถึง พ่อแม่ผู้ปกครองควรใส่ใจ ปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องแก่ลูกหลาน