1 มี.ค. 67 ขึ้นค่าทางด่วน 2 สาย ฉลองรัช-บูรพาวิถี เช็กค่าผ่านทางใหม่

ขึ้นค่าทางด่วน ฉลองรัช บูรพาวิถี

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เตรียมปรับขึ้นค่าทางด่วน 2 สาย ฉลองรัช-บูรพาวิถี ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป หลังเลื่อนปรับขึ้นค่าทางด่วน 6 เดือน เช็กอัตราค่าโดยสารใหม่

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย จะมีการปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษ 2 สายทาง คือ ทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบูรพาวิถี หลังจากเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 มีรายงานว่า กทพ.มีมติเลื่อนการปรับขึ้นค่าผ่านทางพิเศษ ออกไป 6 เดือน จากเดิมที่จะขึ้นวันที่ 1 กันยายน 2566 และจะครบกำหนดในวันที่ 1 มีนาคมที่จะถึงนี้

สำหรับค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบูรพาวิถี ที่จะมีการปรับขึ้นใหม่ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 เป็นดังนี้

อัตราค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช

  • รถ 4 ล้อ 45 บาท (เดิม 40 บาท)
  • รถ 6-10 ล้อ 65 บาท (เดิม 60 บาท)
  • รถมากกว่า 10 ล้อ 90 บาท (เดิม 80 บาท)

เฉพาะด่านรามอินทรา 1 และด่านสุขาภิบาล 5-2

  • รถ 4 ล้อ 20 บาท (อัตราเดิม 20 บาท)
  • รถ 6-10 ล้อ 35 บาท (เดิม 30 บาท)
  • รถมากกว่า 10 ล้อ 45 บาท (เดิม 40 บาท)

อัตราค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี

รถ 4 ล้อ กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะใช้อัตราค่าผ่านทางเดิม แต่กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 5 บาท สูงสุดไม่เกิน 10 บาท โดยคิดตามระยะทาง (อัตราเดิมเริ่มต้น 20-70 บาท)

รถ 6-10 ล้อ กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะปรับขึ้น 5 บาท แต่กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 10 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 บาท โดยคิดตามระยะทาง (อัตราเดิมเริ่มต้น 50-145 บาท)

รถมากกว่า 10 ล้อ กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะปรับขึ้น 5 บาท แต่กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 10 บาท สูงสุดไม่เกิน 25 บาท โดยคิดตามระยะทาง (อัตราเดิมเริ่มต้น 75-220 บาท)

ทั้งนี้ การปรับค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบูรพาวิถีนั้น เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย TFFIF โดยเริ่มพิจารณาปรับอัตราค่าผ่านทางวันที่ 1 มีนาคม 2566 และ กทพ.จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนให้มีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 1 กันยายน 2566

แต่เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในขณะนั้น ได้ลงนามเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงคมนาคม

ที่กำหนดให้ทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) ชะลอการปรับค่าผ่านทางออกไปอีก 6 เดือน หรือไปมีผลวันที่ 1 มีนาคม 2567 เพื่อลดภาระใช้จ่ายของประชาชน รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการทางด้านขนส่ง

ขณะที่การชะลอหรือการปรับขึ้นค่าผ่านทางดังกล่าว เป็นไปตามสัญญาโอนและรับโอนสิทธิในรายได้ในส่วนที่เกี่ยวกับโครงการทางพิเศษฉลองรัช และโครงการทางพิเศษบูรพาวิถี (Revenue Transfer Agreement : RTA) กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย TFFIF

ในข้อ 4.4 การปรับค่าผ่านทาง ที่ระบุว่า เมื่อมีการพิจารณาตามข้อ 5.4 (1) แล้วปรากฏว่าจะต้องปรับค่าผ่านทางเพิ่มขึ้น ทาง กทพ.จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนและกระบวนการที่ระบุไว้ในกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะนั้น เพื่อให้มีผลบังคับภายในวันที่ 1 กันยายน ของปีเดียวกับที่ได้มีการพิจารณา