กพท. ยกระดับคุมเข้มผู้เดินทางเข้าไทย แยกโซนคัดกรองกลุ่มประเทศเสี่ยง

Photo by Anusak Laowilas/NurPhoto via Getty Images

“ผอ.การบินพลเรือน” แจงชัดๆประกาศฉบับใหม่คุมผู้โดยสารไทย-เทศทั่วโลกเข้าไทย ต้องมีใบรับรองแพทย์-กรมธรรม์ประกันภัยโควิด1แสนเหรียญ แยกโซนกักตัวต่างหากผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า หลังจากออกประกาศ เรื่องแนวทางปฎิบัติสำหรับผู้ดำเนินการอากาศที่ทำการบินมายังประเทศไทย ฉบับใหม่ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมาจะมีผลบังคับวันที่ ‪22 มี.ค.‬นี้จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น มีความเปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติในส่วนสำคัญ คือ

จากเดิมบังคับให้สายการบินต่างๆที่เดินทางมาจาก 6 พื้นที่เสี่ยงคือ ประเทศจีน เกาหลีใต้ อิหร่าน อิตาลี เขตปกครองพิเศษมาเก๊าและฮ่องกง ต้องตรวจผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างประเทศทุกรายว่า มีใบรับรองแพทย์ที่ออกไม่เกิน 72 ชม. และกรมธรรม์ประกันภัยที่แสดงการคุ้มครองการรักษาพยาบาลในประเทศไทย ที่คุ้มครองโรคไวัรัสโควิด-19 เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐ

ถ้าไม่มีห้ามสายการบินออกบัตรที่นั่ง (Boarding Pass) ให้เด็ดขาด เปลี่ยนเป็นบังคับให้ผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่เดินทางมาจากทุกประเทศทั่วโลก จะต้องมีหลักฐานทั้งสองมาประกอบการออก Boarding Pass แทน

ทั้งนี้ เมื่อเดินทางถึงสนามบินแล้วจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข คัดกรองอีกทีหนึ่ง โดยจะเน้นตรวจผู้โดยสารที่เดินทางมาจาก 6 ประเทศข้างต้นก่อน

รองลงมาเป็นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง 11 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี เดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์ สเปน เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ และสวิตเซอร์แลนด์ และผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอื่นนอกเหนือจากนี้ ซึ่งตรงหน้างานจะมีการตรวจอย่างไรบ้าง ตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องแนวปฏิบัติของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

ส่วนการกรอกแบบฟอร์ม ต.8 ของกระทรวงสาธารณสุข และการกรอกข้อมูลลง AOT Airport of Thailand นั้น เป็นการให้ผู้โดยสารเลือกว่า จะสะดวกกรอกข้อมูลลงในแบบฟอร์มใด โดยไม่จำเป็นต้องกรอกทั้งสองแบบแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ในเร็วๆนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ สังคม (ดีอีเอส) และกระทรวงสาธารณสุข จะร่วมกันพัฒนาแอปพลิเคชัน เพื่อติดตามผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกราย ซึ่งหากมีการพัฒนาจนสำเร็จ อาจจะมีการออกประกาศฉบับตามบังคับใช้อีกที