ศบค. ชุดใหญ่ เตรียมเสนอที่ประชุมพิจารณา ปรับเวลานั่งกินอาหารในร้านได้ถึง 23.00 น. หลัง สมาคมภัตตาคารไทย เรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี สมาคมธุรกิจแอลกอฮอล์ ขอผ่อนปรนด้วย
วันที่ 25 มกราคม 2564 มติชนรายงานว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.ชุดใหญ่) นัดประชุมพิจารณาคลายล็อกให้ลูกค้านั่งรับประทานอาหารในร้านได้ถึงเวลา 23.00 น. จากปัจจุบันที่ให้นั่งได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. ก่อนเสนอ ครม.ในวันที่ 26 มกราคม ตามที่สมาคมภัตตาคารไทย ยื่นขอเรียกร้องขอผ่อนปรนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 มกราคม นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยมีประชุมเพื่อรวบรวมปัญหาและข้อเสนอจากทุกภาคส่วน และนำเสนอ ศบค.มาต่อเนื่อง ทั้งภาคท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารและบริการ
“คาดว่า ที่ประชุม ศบค.และครม.ในสัปดาห์นี้ จะมีความคืบหน้าในเรื่องช่วยเหลือสภาพคล่องและซอฟต์โลน และการขยายเวลาให้นั่งกินอาหารและเครื่องดื่มในร้านค้าได้ถึง 23.00 น. เพื่อให้การค้าคล่องขึ้น” นายกลินท์ กล่าว
ด้านนายธนากร คุปตจิตต์ เลขาธิการสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลผ่อนคลายให้นั่งรับประทานอาหารในร้านได้ถึงเวลา 23.00 น. ก็ขอให้สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ด้วย หากยังไม่มีการผ่อนคลายให้นั่งดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้จนถึงเดือนเมษายน คาดว่า ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะสูญเสียรายได้กว่า 8-9 หมื่นล้านบาท
“การประกาศปิดสถานบันเทิง และห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ในพื้นที่ต่าง ๆ อาทิ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ชลบุรี และนนทบุรี ซึ่งมีผู้บริโภคจำนวนมาก นอกจากจะส่งผลให้ยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงแล้ว ยังส่งผลกระทบทางอ้อมถึงร้านอาหารและภัตตาคารที่มีรายได้ลดลง เนื่องจากไม่สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ทั้งนี้ การให้รับประทานอาหารคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนต่อเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มขึ้น” นายธนากรกล่าว