ในประเทศ

เปิดไทม์ไลน์วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ลอตบริจาคจากสหรัฐ

ไทม์ไลน์ไฟเซอร์

สำนักงานสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดไทม์ไลน์วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส

วันที่ 5 สิงหาคม 2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทวีตกราฟฟิก เปิดไทม์ไลน์ วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส จัดทำโดย สำนักงานสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งระบุไทม์ไลน์ ดังนี้

  • 30 ก.ค. 64 วัคซีนลอตบริจาค 1.5 ล้านโดส ถึงประเทศไทย จัดเก็บที่คลังวัคซีนที่ -70 องศาเซลเซียส บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา (ประเทศไทย) จก. จากนั้นส่งตัวอย่างตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
  • 2 ส.ค. 64 ได้รับผลตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย
  • 3-4 ส.ค. 64 บริษัทจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ แพ็กวัคซีนเพื่อจัดส่ง
  • 5-6 ส.ค. 64 จัดส่งวัคซีนลอตแรก เข็มกระตุ้นสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และเข็ม 1 สำหรับกลุ่มเสี่ยงเป้าหมายถึงหน่วยบริจาร
  • 7-8 ส.ค. 64 โรงพยาบาลเตรียมความพร้อมการฉีดวัคซีน
  • 9 ส.ค. 64 หน่วยบริการเริ่มฉีดวัคซีน
  • กลางเดือน ส.ค. 64 จัดส่งวัคซีนเข็ม 2 สำหรับฉีดปลายเดือน ส.ค. 64

ไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสจากสหรัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม สหรัฐ ประกาศบริจาควัคซีนชนิด mRNA ยี่ห้อไฟเซอร์ให้ประเทศไทย จำนวน 1.54 ล้านโดส คาดว่าจะเริ่มฉีดให้ประชาชนได้ในเดือนสิงหาคมนี้

ต่อมาพันโทหญิงลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐเชื้อสายไทย เปิดเผยว่า วัคซีน 1.5 ล้านโดสดังกล่าว เป็นเพียงลอตแรกเท่านั้น เพราะสหรัฐจะบริจาคให้ไทย 2.5 ล้านโดส เพื่อกระจายฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้

  1. บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับภารกิจดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ (เข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน) จำนวน 700,000 โดส
  2. ผู้มีภาวะเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ที่มีสัญชาติไทย จำนวน 645,000 โดส ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
  3. ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุ และโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้เดินทางไปต่างประเทศ ที่จำเป็นต้องรับวัคซีนไฟเซอร์ เช่น นักการทูต นักศึกษา จำนวน 150,000 โดส
  4. ทำการศึกษาวิจัย (ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม) จำนวน 5,000 โดส
  5. สำรองส่วนกลางสำหรับตอบโต้การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ จำนวน 40,000 โดส

ประยุทธ์การันตีวัคซีนไม่หาย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ที่โซเชียลมีเดียตั้งข้อสังเกตว่า ยอดน้อยกว่าข้อมูลที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขที่มีการเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้คือ ตัวเลขกลม ๆ แต่เมื่อได้รับมาก็เป็นตัวเลขที่ตรงกับที่สถานทูตสหรัฐยืนยัน

“ผมก็ตรวจสอบกับสถานทูตสหรัฐมาแล้ว ตัวเลขก็ตรงกัน ถ้ามันหาย ผมไม่เอาไว้แน่”

นอกจากนี้ นายกฯยังสั่งการให้สำรวจว่าบุคลากรด่านหน้ามีใครบ้าง ให้แยกออกมา เพื่อจะได้พิจารณาค่าตอบแทนให้เป็นพิเศษ เพราะต้องดูแลเยียวยาคนกลุ่มนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนปิดประชุม นายกฯได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ช่วยกันแก้ปัญหาโควิด-19 ว่า

“ขอบคุณทุกคนที่ทำงานด้วยความเสียสละและอดทน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเขา สนับสนุน ทั้งเครื่องมือ เพื่อให้มีความพร้อม” รวมถึงกล่าวกับ ครม. ว่า “เราต้องมีความรักสามัคคีกัน เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ”