ตร. นครสวรรค์ ยื่นฝากขัง ผู้กำกับโจ้-ลูกน้อง เเจ้งข้อหาหนักร่วมฆ่าทารุณ

ตำรวจนครสวรรค์ยื่นฝากขัง ผกก.โจ้-ลูกน้อง เเจ้งข้อหาหนักร่วมฆ่าทารุณ ไร้ญาติยื่นประกัน

วันที่ 27 สิงหาคม 2564 จากกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ และ ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา อดีต รอง สว.(ป.) สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้หลบหนี หลังมีพฤติการณ์ร่วมกันทำร้ายร่างกายโดยการทรมาน นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ชีวิต

ต่อมา ตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้กำกับโจ้ได้แล้ว ขณะหลบหนีอยู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ก่อนนำตัวกลับมาสอบสวน พร้อมกับสามารถจับตัวผู้ต้องอีก 6 ราย ซึ่งเป็นลูกน้องอดีตผู้กำกับโจ้ครบทุกราย

ผู้กำกับโจ้เปิดใจยอมรับผิด ยันต้องการรีดข้อมูล ไม่มีเจตนาฆ่าผู้ต้องหา
สิระ ลงพื้นที่บ้านเกิด สอบคดี “ผู้กำกับโจ้” ในฐานะนครสวรรค์ ปล่อยไปไม่ได้

โดยศาลจังหวัดนครสวรรค์ พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา ประกอบพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง ลักษณะการกระทำเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราว หากให้ปล่อยชั่วคราวเชื่อว่าจะหลบหนี จึงไม่มีเหตุสมควรให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง

Advertisment

จากนั้น พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. คุมตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ มาทำบันทึกการจับกุมที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ภายหลังการแถลงข่าวการจับกุมที่ บก.ป. จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้กำกับโจ้ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ ภ.จว.นครสวรรค์ ก่อนจะมีการฝากขังในช่วงเช้า

ล่าสุด มติชน รายงาน ที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ถ.ไกรลาศ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อายุ 39 ปี หรือ “สารวัตรโจ้ หรือ ผกก.โจ้” ชาวกรุงเทพมหานคร อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เป็นจำเลยในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด,ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย, ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ หรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมสิ่งนั้น โดยเป็นการฝากขังผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

คำร้องฝากขังระบุ พฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2564 เวลากลางคืน ผู้ต้องหากับพวกเป็นตำรวจประจำสภ.เมืองนครสวรรค์ ทำหน้าที่ประจำชุดปราบปรามยาเสพติด ร่วมกันจับกุมตัว นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ และ น.ส.กนกวรรณ หรือเฟิร์น คล้ายนิ่ม สองสามีภรรยา ที่ร่วมกันนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) คือยาไอซ์ จำนวน 3 ถุง น้ำหนักถุงละ 100 กรัม มาจำหน่ายให้กับสายลับของผู้ต้องหาที่ทำการล่อซื้อ โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าเซเว่นอีเลฟเว่น ตลาดนัดหน้าค่ายจิรประวัติ ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสรรค์ และตรวจยึดรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ขฉ 2905 ชัยนาท ต่อมาขณะที่นายจิระพงศ์ อยู่ในการควบคุมของผู้ต้องหากับพวก ผู้ต้องหากับพวกทราบว่านายจิระพงศ์ มียาบ้าไว้จำนวนมาก ต่อมาวันที่ 5 ส.ค.2564 เวลากลางวัน ผู้ต้องหากับพวกประกอบด้วย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล,พ.ต.ต.รวิโรจน์ ดิษทอง, ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค, ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา, ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว,ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น และ ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว ร่วมกันสอบเค้นหาที่ซ่อนยาเสพติดดังกล่าว โดยใช้ถุงพลาสติกโดยไม่มีช่องอากาศ ครอบศีรษะนายจิระพงศ์ ม้วนปิดปากถุงเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปในถุง ทำให้นายจิระพงศ์ หายใจไม่ออก พยายามดิ้น ผู้ต้องหากับพวกดังกล่าวได้ร่วมกันจับลำตัว แขน นายจิระพงศ์เพื่อไม่ให้ขัดขืน การกระทำของผู้ต้องหากับพวก ทำให้นายจิระพงศ์ ขาดอากาศหายใจ หมดสติ และถึงแก่ความตาย ในเวลาต่อมา ส่วนยาเสพติดที่ล่อซื้อได้ไม่ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และได้ปล่อยตัว น.ส.กนกวรรณ หรือ เฟิร์น
คล้ายนิ่ม กับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ขฉ 2905 ชัยนาทไป

การที่ผู้ต้องหากับพวกให้สายลับล่อซื้อยาเสพติดจนจับกุมนายจิระพงศ์ กับ น.ส.กนกวรรณได้พร้อมยาเสพติดเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่การที่ใช้วิธีบังคับที่เป็นอันตรายต่อชีวิต เพื่อขยายผลเครือข่ายยาเสพติดเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและเมื่อผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหากับพวกไม่ส่งยาเสพติดที่ล่อซื้อได้ดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังเกิดเหตุมารดาผู้ตายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เมื่อพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดนครสวรรค์ ออกหมายจับ ซึ่งศาลอออกหมายจับเลขที่ 183/2564 ลงวันที่ 25 ส.ค.2564

Advertisment

จากนั้นเมื่อ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ผู้ต้องหาทราบว่ามีหมายจับได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขอมอบตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา แก่ผู้ต้องหา คือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล

เหตุเกิดที่ ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2564 การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,157,289,309 วรรคสอง ท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนยังระบุว่า ได้สอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาจะครบ 48 ชั่วโมง แล้ว

แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จึงขออนุญาตฝากขังมีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย. 2564 และขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ มีอัตราโทษสูง ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำผิดเสียเอง หากมีการปล่อยตัวชั่วคราวเกรวงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทั้งนี้ประสงค์จะดำเนินการยื่นคำร้องฝากขัง โดยขอให้ศาลสอบถามผู้ต้องหา หรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาผ่านระบบการประชุมทางจอภาพในการฝากขังครั้งต่อไปทุกครั้งด้วย ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้

นอกจากนี้พนักงานสอบสวนสภ.เมืองนครสวรรค์ยังได้ยื่นฝากขัง ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นตำรวจที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในฐานความผิดเหตุการณ์เดียวกันกับ พ.ต.อ.พ.ต.อ.ธิติสรรค์ โดยในคำร้องฝากขังพนักงานสอบสวนก็ได้คัดค้านประกันเช่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้ายต้องระวางโทษประหารชีวิต

ต่อมาภายหลังไม่ปรากฎว่ามีญาติผู้ต้องหาทั้ง2 ยื่นขอปล่อยชั่วคราว จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวไปคุมขังยังเรือนจำต่อไป