ปลดล็อกชุดตรวจ HIV ด้วยตนเอง จำหน่ายที่ร้านขายยาสิ้นเดือน ส.ค.

HIV TEST

กรมควบคุมโรค ปลดล็อกชุดตรวจหาเชื้อเอชไอวีด้วยตนเอง วางจำหน่ายร้านขายยา ปลาย ส.ค. เป็นต้นไป 

วันที่ 31 สิงหาคม 2564 นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทยว่า ขณะนี้ ประเทศไทยได้ดำเนินการตามปฏิญญาทางการเมืองที่ประกาศมุ่งมั่นยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 หรือในอีก 9 ปีข้างหน้า

โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ไม่เกิน 1,000 ราย/ปี ลดการเสียชีวิตจากเอดส์ ไม่เกิน 4,000 ราย/ปี และลดการรังเกียจตีตราและเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วย ให้ได้ร้อยละ 90

ซึ่งผลการดำเนินงานได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเครือข่ายภาคประชาสังคมเป็นอย่างดี ทำให้สถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวีในประเทศขณะนี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา พบ 4,855 ราย

ชุดตรวจหาเชื้อ HIV 2 ชนิด วางขายปลาย ส.ค.

นพ.ปรีชา กล่าวว่า มาตรการที่ไทยจะนำมาใช้แก้ไขปัญหาเอดส์ในปี 2564 ก็คือ การสนับสนุนให้ประชาชนที่มีพฤติกรรมเสี่ยง สามารถใช้ชุดตรวจคัดกรองการติดเชื้อเบื้องต้นด้วยตนเองได้ ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ขับเคลื่อนร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หน่วยงานอื่น ๆ ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา

ตามมติคณะกรรมการแห่งชาติว่า ด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนรู้สถานะการติดเชื้อของตนเอง โดยในปี 2564 มีชุดทดสอบผ่านการขึ้นทะเบียนรับรองมาตรฐานจาก อย. แล้ว 2 ชนิด คือ ชุดตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีจากการเจาะเลือดปลายนิ้วมือ รู้ผลภายใน 1 นาที และชุดตรวจโดยการใช้น้ำลายอ่านผลได้ใน 20 นาที

โดยเตรียมวางจำหน่าย ในร้านขายยาแผนปัจจุบันทั่วประเทศตั้งแต่สิ้นเดือนสิงหาคม เป็นต้นไป ซึ่งจะสอดรับกับข้อจำกัดในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงหรือสงสัยว่า ติดเชื้อ ไม่สามารถไปตรวจหาเชื้อที่สถานพยาบาลตามปกติ

ชุดทดสอบนี้จะทำให้ประชาชนนำไปใช้ตรวจคัดกรองการติดเชื้อเบื้องต้น เพื่อให้รู้สถานะการติดเชื้อของตนเองได้เร็ว และตรวจยืนยันอีกครั้งที่สถานพยาบาล

หากพบว่า ติดเชื้อจะเข้าสู่ระบบดูแลรักษาด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวีในสถานพยาบาลทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็วตามสิทธิการรักษา จนสามารถลดเชื้อไวรัสในกระแสเลือดได้ และไม่สามารถถ่ายทอดเชื้อสู่คนอื่น