จับตาพายุ ไลออนร็อก เข้าไทยวันนี้ (11 ต.ค.) พร้อมเปิดไทม์ไลน์ละเอียด ก่อนทวีความรุนแรงเป็นโซนร้อน แนะวิธีรับมือเบื้องต้น
วันที่ 11 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณี นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยลักษณะอากาศ ฉบับที่ 7 เรื่อง พายุโซนร้อนไลออนร็อก ระบุว่า พายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็น “พายุโซนร้อนไลออนร็อก” แล้ว และคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 10-11 ตุลาคม 2564
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวมข้อมูลของพายุไลออนร็อก ก่อนก่อตัวเป็นพายุโซนร้อน พร้อมแนะนำวิธีรับมือเบื้องต้น เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ดังนี้
ทีมกรุ๊ป เตือน
นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) TEAMG หรือ ทีมกรุ๊ป วิเคราะห์ว่า พายุหมายเลข 17 “ไลออนร็อก” เป็นชื่อที่ฮ่องกงตั้งขึ้น เนื่องจากเป็นพายุที่ขึ้นฝั่งล่าช้ากว่าปกติ จากคาดการณ์เดิม 7-9 ตุลาคม 2564 แต่พายุขึ้นไปทางเหนือ อ้อมไปที่เกาะไหหลำ ก่อนจะมาขึ้นเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม
ทั้งนี้ การรวมตัวกันช้า เมื่อเข้าไทยจึงมีพลังมากพอ เพราะรวมพลังครั้งใหญ่ผ่านทะเลรวบรวมความชื้นมากขึ้น โดยจะเข้าไทยที่ จ.นครพนม และฝนที่นครพนมจะตกหนักตั้งแต่ช่วงวันที่ 11-12 ตุลาคม เช่นเดียวกับที่ จ.บึงกาฬ จ.อุดรธานี แต่ไม่น่าห่วง เพราะสามารถระบายลงแม่น้ำโขงได้เร็ว
สำหรับ “พายุไลออนร็อก” มีโอกาสจะข้ามภูเขามาถึง จ.น่าน ซึ่งอาจทำให้มีฝนตกเหนือเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนภูมิพล ซึ่งตอนนี้มีน้ำไม่ถึง 40%
ส่วนฝนที่ตกใต้เขื่อน ลำน้ำน่าน มีพื้นที่เพียงพอที่จะรับน้ำได้ นับเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย
เปิดไทม์ไลน์ “ไลออนร็อก” ก่อนเป็นโซนร้อน
ข้อมูลจาก เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนภัยพายุดีเปรสชั่น บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ก่อนทวีความรุนแรงเป็นพายุโซนร้อน ดังนี้
- 6 ตุลาคม 2564 ฉบับที่ 1 เวลา 15.00 น.
พายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 14.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.5 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 10-11 ตุลาคม 2564
- 6 ตุลาคม 2564 ฉบับที่ 2 เวลา 19.00 น.
พายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 15.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 10-11 ตุลาคม 2564
- 7 ตุลาคม 2564 ฉบับที่ 3 เวลา 04.00 น.
พายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 16.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.5 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 10-11 ตุลาคม 2564
- 7 ตุลาคม 2564 ฉบับที่ 4 เวลา 10.00 น.
พายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เกือบไม่เคลื่อนที่ คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 10-11 ตุลาคม 2564
- 7 ตุลาคม 2564 ฉบับที่ 5 เวลา 16.00 น.
พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทาง
ทิศเหนือค่อนทางทิศตะวันตกเล็กน้อยอย่างช้า ๆ คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 10-11 ตุลาคม 2564
- 7 ตุลาคม 2564 ฉบับที่ 6 เวลา 22.00 น.
พายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทาง
ทิศเหนือค่อนทางทิศตะวันตกเล็กน้อยอย่างช้าๆ คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 10-11 ตุลาคม 2564
- 8 ตุลาคม 2564 ฉบับที่ 7 เวลา 04.00 น.
พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ไลออนร็อก” แล้ว มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 600 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม หรืออยู่ที่ละติจูด 17.3 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.3 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เกือบไม่เคลื่อนที่ คาดว่าเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 10-11 ตุลาคม 2564
เตือนภัย
- มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ระวังฝนตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก
- ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
- บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
- ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
3 ภาค ระวังฝนตกหนัก
ข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยความคืบหน้าพายุไลออนร็อก ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2564 ระบุว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรงในช่วง 8-11 ตุลาคม 2564 ส่วนร่องมรสุมพาดผ่าน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง
เตรียมตัวรับมือพายุ
ข้อมูลจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย (ปภ.) ระบุวิธีรับมือพายุ ลดเสี่ยงอันตรายไว้ดังนี้
เตรียมพร้อมรับมือ
- ติดตามพยากรณ์อากาศ
- ตรวจสอบอาคารบ้านเรือนให้มั่นคง แข็งแรง
- จัดเก็บสิ่งของที่ปลิวลมได้ในที่มิดชิด
- ตัดแต่งกิ่งไม้และต้นไม้ที่เสี่ยงต่อการหักโค่น
- พบเห็นเสาไฟฟ้าหรือป้ายโฆษณาไม่แข็งแรงให้รับแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กรณีอยู่ในอาคาร
- ไม่อยู่ยริเวณดาดฟ้าหรือระเบียง เพราะเสี่ยงถูกฟ้าผ่า
- ปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิด ป้องกันอันตรายจากลมแรง
- งดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ ป้องกันการถูกฟ้าผ่า
กรณีอยู่กลางแจ้ง
- อยู่ห่างจากสิ่งก่อสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง ป้องกันการถูกล้มทับ
- ไม่อยู่ใกล้วัตถุที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า
- งดใช้เครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ลดเสี่ยงการถูกฟ้าผ่า