ญาติชาวพม่าเหยื่อ “รถตู้มรณะ” ทยอยให้ปากคำ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยกรณีรถยนต์ตู้โดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 33-3241 กทม. ของ หจก.บุญเรือน ทัวร์ รับส่งแรงงานต่างด้าวพม่าชนท้ายรถยนต์บรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อมิตซูมิตชิ ทะเบียน 81-7407 นครสรรค์ เกิดเพลิงลุกไหม้รถตู้โดยสารจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน คนเป็นชาวไทย 1 คน และมีผู้โดยสารเป็นชาวพม่า 13 คน เหตุเกิดถนนสายเอเชียขาล่อง กม.ที่ 90+600 ม.3 ต.บางมัญ อ.เมือง จว.สิงห์บุรี เมื่อ 24 พฤศจิกายน เวลา 02.30 น. นั้นว่า การตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการตายที่ นิติเวช รพ.ตำรวจ ขณะนี้ คนไทยซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ตู้สาธารณะ สามารถยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว โดยญาติรับศพกลับไปตั้งแต่ วันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่วนผู้เสียชีวิตชาวเมียนมาร์ มีญาติมาตรวจเก็บดีเอ็นเอ เพื่อรอเปรียบเทียบ เพียง 1 ราย โดยคาดว่าจะทยอยมาเข้ามาตรวจเก็บดีเอ็นเอ เพื่อรอการเปรียบเทียบในวันเดียวกันนี้

ขณะที่การสอบสวน ได้มีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปาก เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้ดำเนินการตรวจเก็บพยานหลักฐานในสถานที่เกิดเหตุและตรวจร่องรอยการเฉี่ยวชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าวันนี้ญาติผู้เสียชีวิตชาวเมียนมาจะทยอยเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสิงห์บุรี

รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า สำหรับสาเหตุการเกิดเหตุรถชนในครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ลักษณะของการเกิดเหตุซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ และขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใด เนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐานยืนยันการกระทำความผิด แต่หากระหว่างการสอบสวนพบว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำความผิด ก็สามารถแจ้งข้อกล่าวหากับผู้นั้นได้อยู่แล้ว ตามกรอบระยะเวลาการสอบสวน ที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยจะต้องมีพยานหลักฐาน ที่น่าเชื่อถือ มีน้ำหนักและยืนยันได้ว่าผู้นั้นเป็นผู้กระทำความผิด

 

ที่มา : มติชนออนไลน์