กทม. เปิดแผนรับมือพายุฤดูร้อน สกัดน้ำท่วมขัง-ต้นไม้หักโค่น 27-28 มี.ค.นี้

กทม. กางแผนรับมือพายุฤดูร้อน ทำฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง สั่งหน่วยงานเตรียมอุปกรณ์กู้ภัย เร่งตัดต้นไม้-กิ่งไม้ไม่แข็งแรง และตรวจสภาพป้ายโฆษณารอบกรุงเทพ หวั่นล้มทับทรัพย์สินประชาชน พร้อมเตรียมการระบายน้ำ จับตาพื้นที่น้ำเสี่ยงท่วมขัง

วันที่ 27 มีนาคม 2565 นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนประเทศไทยจะเกิดพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 27–28 มี.ค.นี้

ส่งผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่า พร้อมเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง

อย่างไรก็ตาม จากรายงานดังกล่าวพบว่า พื้นที่ กทม. จะได้รับผลกระทบในวันที่ 28 มี.ค. ดังนั้น กทม. จึงได้มีแผนตั้งรับ โดยเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย ยานพาหนะ และอุปกรณ์ในการกู้ภัยต่าง ๆ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย

ควบคู่กับมอบหมายหน่วยงานในสังกัดเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่ต่าง ๆ นอกเหนือจากแผนตัดแต่งต้นไม้ประจำเดือนที่ดำเนินการอยู่แล้ว เช่น สวนสาธารณะ สวนหย่อม ถนน และสถานที่สาธารณะ

โดยให้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของต้นไม้ใหญ่ทั้งในเรื่องกิ่งแห้ง กิ่งผุ หรือต้นไม้ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกลมพายุพัดหักโค่น หากพบไม่มั่นคงแข็งแรง ให้แก้ไขตัดแต่งทันที

ส่วนต้นไม้ที่อยู่บริเวณถนนสายหลัก สายรอง ริมทางสัญจร หรือใกล้บ้านเรือนประชาชน หากพบพุ่มหนาทึบต้านลม ให้ดำเนินการตัดแต่งสางโปร่งอย่างถูกต้องตามหลักรุกขกรรม ก่อนจะถึงวันที่ 27-28 มี.ค. 65 เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงความเสียหายและอันตรายที่อาจมีต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

นอกจากนี้ ได้เตรียมความพร้อมแก้ไขหากเกิดกรณีกิ่งไม้หัก ต้นไม้ล้ม กีดขวางทางสัญจร สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน

โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยเร่งด่วนพร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ทันทีหากมีกรณีต้นไม้หักโค่น หรือให้การช่วยเหลือ โดยกำชับให้ตรวจสอบเครื่องมือ อุปกรณ์ และยานพาหนะ ให้มีความพร้อมสำหรับการปฏิบัติงานได้ทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุ

รวมทั้งตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความปลอดภัยของป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และประสานความร่วมมือในการตรวจแนะนำให้เจ้าของอาคารตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกจากอิทธิพลของพายุฤดูร้อน

พร้อมทั้งกำชับเจ้าของป้ายขนาดใหญ่ ดำเนินการตรวจสอบการใช้งานและความมั่นคงแข็งแรงของป้าย

สำหรับป้ายถูกกฎหมายแต่มีสภาพเก่า ชำรุด อันอาจก่อให้เกิดภยันตราย ต้องมีคำสั่งให้เจ้าของป้ายดำเนินการแก้ไขหรือให้รื้อถอน หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีกับเจ้าของป้ายที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเคร่งครัด และเร่งรัดการรื้อถอน

ด้านการเตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ได้เตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม ติดตาม ตรวจสอบ เฝ้าระวังสภาพอากาศ การพยากรณ์อากาศแบบจำลองเส้นทางพายุ จากกรมอุตุนิยมวิทยา การตรวจสอบกลุ่มฝนด้วยเรดาร์ ความพร้อมของเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการเร่งด่วนเคลื่อนที่ (BEST) เข้าพื้นที่ขณะที่มีฝนเริ่มตก

โดยการตรวจสอบเร่งระบายน้ำในจุดที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่จุดเสี่ยง จุดเฝ้าระวังรวมถึงบริเวณทางอุโมงค์ทางลอดต่าง ๆ พร้อมทั้งการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานีสูบน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำ บ่อสูบน้ำ

ส่วนความพร้อมด้านระบบระบายน้ำ ได้มีขุดลอกท่อระบายน้ำคูคลอง เปิดทางน้ำไหล จัดเก็บขยะวัชพืช ลดระดับน้ำในคูคลอง บ่อสูบน้ำและแก้มลิงให้อยู่ในระดับต่ำตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม อุโมงค์ระบายน้ำ 4 แห่ง สถานีสูบน้ำ 190 แห่ง ประตูระบายน้ำ 244 แห่ง และบ่อสูบน้ำ 316 แห่ง

นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เพื่อรองรับสถานการณ์ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองประจำสถานีสูบน้ำกรณีไฟฟ้าขัดข้อง เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ (โมบายยูนิต) รถเครน รถบรรทุกติดตั้งเครนยกไฮโดรลิค บอลลูนไลท์ เครื่องมือ และอุปกรณ์ ในการติดตั้งและตรวจสอบแก้ไขเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และการจัดเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอสำหรับเครื่องสูบน้ำและเครื่องจักรกลที่ติดตั้งใช้งานในพื้นที่จุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม

รวมถึงการประสานงานหน่วยงานต่างๆทั้งหน่วยงานภายในและหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ในการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือในกรณีที่เกิดฝนตกหนัก มีน้ำท่วมขัง ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ แผนบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า การติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม

ขณะที่แผนเผชิญเหตุ CPX ที่ได้มีการฝึกซ้อมแผนปฏิบัติป้องกันและการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลร่วมกัน อีกทั้งประสานงานการแก้ไขปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบระบายน้ำ อาทิ โครงการระบบระบายน้ำแนวถนนวิภาวดีตั้งแต่แยกดินแดงถึงฐานทัพอากาศ และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ (รฟม.)