โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ กลายเป็นสตาร์เจิดจ้าที่สุดในพรีเมียร์ลีก แม้ว่าฝีเท้าจะคู่ควร แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินคาดอย่างแท้จริง
กระทั่งลิเวอร์พูลเองก็คงคิดไม่ถึงว่าจะแจ็กพอตขนาดนี้ ตอนทุ่มเงิน 37 ล้านปอนด์ ซื้อมาจากโรม่า ซาล่าห์เป็นแค่ปีกความเร็วจี๊ดจ๊าดที่ยิงประตูได้ดี น่าจะเข้ามาเพิ่มความหวือหวาให้เกมริมเส้นได้
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
ใครจะไปคิดว่า หมอนี่จะกลายเป็น โม ซาล่าห์ ยิงกระจาย 36 ประตู รวมทุกถ้วย และถ้าย้ายทีม ค่าตัวก็ต้องพุ่งไปแตะ 200 ล้านปอนด์แน่นอน
หงส์แดงเหมือนถูกหวย ได้ซูเปอร์สตาร์คนใหม่มาประดับทีมแบบงง ๆ
บางทีความร้อนแรงของซาล่าห์อาจเป็นเพราะสไตล์การเล่นเข้ากันพอดิบพอดีกับเกมของลิเวอร์พูล
กุนซือ เยอร์เก้น คลอปป์ ชอบบอลเร็ว บุกเร็ว เพรสซิ่งเร็ว โม ซาล่าห์ จึงได้บอลเยอะ มีโอกาสยิงเยอะ ถึงไม่ได้ยืนหน้าเป้า แต่เทคนิคและการเล่นในพื้นที่แคบ ๆ เก่ง ก็ทำให้จำนวนประตูไหลมาเทมา
จังหวะชีวิตเข้ากันพอดี ไม่เหมือนตอนไปคว่ำกับเชลซี ยุคโชเซ่ มูรินโญ่
ซาล่าห์อยู่กับเชลซี ช่วงปี 2014-2016 แต่แทบไม่มีบทบาท และที่จริงก็เหมือนถูกดึงมาสแตนด์บาย เผื่อไว้สำรองเวลาตัวดัง ๆ บาดเจ็บซะมากกว่า
สิงห์น้ำเงินช่วงนั้นมีตัวริมเส้นอย่าง รามิเรซ, อังเดร เชียร์เล่ รวมทั้ง วิลเลี่ยน ทุกคนบารมีเหนือกว่า แถมยังเล่นเข้ากับแท็กติกของมูรินโญ่มากกว่า โอกาสลงเล่นของโม ซาล่าห์ จึงมีน้อยมาก แล้วกุนซืออย่างจ่ามู ก็ไม่ได้ให้โอกาสเขา ไม่เชื่อมั่นในตัวเขา เหมือน เยอร์เก้น คลอปป์
โม ซาล่าห์ เป็นนักเตะที่ต้องการความมั่นใจจากผู้จัดการทีม และเพื่อนร่วมทีม ตอนนี้ทั้ง 2 อย่างมีอยู่เต็มเปี่ยมที่ลิเวอร์พูล
แล้วผลตอบแทนก็อย่างที่เห็น โม ยิงรวม 36 ประตู 28 ลูกเฉพาะในพรีเมียร์ลีก คือสถิติยิงสูงสุดใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป มากกว่า ลีโอเนล เมสซี่ มากกว่า โรนัลโด้ เอดินสัน คาวานี่ กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก็สู้ไม่ได้
โม ซาล่าห์ ยังเป็นตัวเต็งคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก พอ ๆ กับเควิน เด บรอยน์ ของแมนฯซิตี้ ซึ่งถ้าได้จริงก็ถือว่าสมควร
ลิเวอร์พูลจ่ายค่าตัวไม่ถึง 40 ล้านปอนด์ ผ่านไปไม่ถึงปี ก็ได้กำไรเป็นผลงานมหาศาล แล้วถ้าจะเปลี่ยนเป็นเงิน ก็ฟันเละ!