ลีกจีนแตก

คุยกับเอกราช เอกราช เก่งทุกทาง

ซูเปอร์ลีกจีนเคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในฟุตบอลลีกที่รวยที่สุดในโลก เป็นขุมทองใหม่ที่บรรดานักเตะดังอยากมาโกยเงินเข้ากระเป๋า เป็นลีกที่ถูกจับตาว่ามีสิทธิฮิตระเบิดตามสไตล์จีน ซึ่งทำอะไรเล็ก ๆ ไม่เป็น

ความจริงมันก็บูมอยู่ช่วงหนึ่ง แต่จบภายในเวลาแค่ 5 ปี

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ลีกจีนจะฟองสบู่แตกอย่างรวดเร็ว อาการย่ำแย่ถึงขนาดเจียงซู FC แชมป์ซูเปอร์ลีกฤดูกาลล่าสุดโดนซูหนิง กรุ๊ป สปอนเซอร์ใหญ่ประกาศยุบทีม ทั้งที่เพิ่งจะคว้าแชมป์ได้เพียง 3 เดือน

ซูหนิงกำลังจะล้มละลายจากพิษเศรษฐกิจยุคโควิด จำเป็นต้องตัดงบฯทำทีมฟุตบอล นี่คือข่าวร้ายที่ไม่ได้เกิดกับแค่ทีมเจียงซู แต่สโมสรอื่นในลีกจีนหลายรายก็โดนหางเลขตามไปด้วย

ก่อนหน้านี้ ซานตง ลู่หนิง เพิ่งถูกตัดสิทธิจากการแข่ง AFC แชมเปี้ยน’ส ลีก เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะกับสตาฟโค้ช

Advertisment

ฤดูกาลที่แล้ว ลีกจีนมีถึง 16 สโมสร ประกาศยุบทีม 11 รายที่ยุบ เป็นเพราะมีปัญหาการเงิน

ภาพรวมของบอลลีกจีนตอนนี้ พูดได้เต็มปากว่า หมดยุคขุดทองอย่างสิ้นเชิง

ไม่มีทางได้เห็นบิ๊กดีล อย่างปี 2017 ที่เซี่ยงไฮ้ SIPG ทุ่มเงิน 60 ล้านปอนด์ ซื้อออสการ์จากเชลซีอีกต่อไปแล้ว

เรื่องที่เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ยอมจ่ายค่าเหนื่อยจ้าง คาร์ลอส เตเวซ ปีละ 34 ล้านปอนด์ กลายเป็นตำนานที่ไม่มีวันเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด

Advertisment

จุดเปลี่ยนของเรื่องนี้มาจากเหตุผล 3 ข้อนะครับ

หนึ่งคือ เจอโควิดเล่นงาน สโมสรจีนพึ่งเงินจากนายทุนเป็นหลัก พอเศรษฐกิจพัง ธุรกิจขาดทุน ย่อมส่งผลกระทบถึงทีมฟุตบอลอย่างช่วยไม่ได้

แล้วทีมจีนก็ใช้เงินเกินตัว ปี 2018 บรรดา 16 สโมสรในซูเปอร์ลีก มีค่าใช้จ่ายถึง 1.1 พันล้านหยวน ขณะที่รายรับเข้ามาแค่ 686 ล้านหยวน

ลีกจีนไม่มีวินัย ใช้เงินมากกว่าเจลีก ญี่ปุ่น 3 เท่า และมากกว่าเคลีก เกาหลีใต้ ถึง 10 เท่า

อีกเหตุผลที่เป็นจุดตายพอกันคือ การเปลี่ยนนโยบายของรัฐบาลจีน

5 ปีก่อน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง หวังจะยกระดับจีนเป็นมหาอำนาจลูกหนังโลกภายในปี 2050 ตั้งเป้าจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก และคว้าแชมป์โลก โปรเจ็กต์นี้ทำให้รัฐบาลหันมาสนับสนุนบอลลีกในประเทศ เพราะเชื่อว่าถ้าลีกแข็งแกร่งก็จะยกระดับนักเตะ ทำให้ทีมชาติจีนเก่งขึ้นตามไปด้วย

ตอนเริ่มโครงการ จีนอยู่อันดับ 77 ของโลกตามแรงกิ้งฟีฟ่า แต่ผ่านมา 5 ปี กลับยังอยู่อันดับ 75 ขยับแค่นิดเดียว ผลงานในสนามก็แทบไม่มีอะไรดีขึ้นชัดเจน

รัฐบาลประเมินว่า ลีกโตผิดทาง นักเตะต่างชาติที่จ้างมาแพง ๆ ไม่ได้ช่วยอัพเกรดนักเตะจีน แถมสโมสรยังพึ่งแต่เงินสปอนเซอร์ สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ไม่ตั้งใจพัฒนาผู้เล่นท้องถิ่นอย่างจริงจัง

พอผิดหวัง นโยบายก็เปลี่ยน

รัฐบาลจีนเริ่มคิดภาษีค่าตัวนักเตะต่างชาติ 100% ทีมไหนซื้อตัวต่างชาติ 45 ล้านหยวน ต้องจ่ายภาษีจำนวนเท่ากันให้รัฐ ยิ่งกว่านั้นยังกำหนดเพดานเงินเดือนไม่ให้จ่ายค่าเหนื่อยกันแพงเว่อร์เหมือนเมื่อก่อน

แต่ที่ว่ากันว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายก็คือ รัฐบาลสั่งให้สมาคมฟุตบอลออกกฎห้ามทีมสโมสรใช้ชื่อสปอนเซอร์ต่อท้ายชื่อทีมอีกต่อไป ให้เหตุผลว่าอยากเน้นเรื่องวัฒนธรรมความเป็นจีนมากกว่าเรื่องธุรกิจ

จากเดิมที่เป็นเจียงซู ซูหนิง ก็เปลี่ยนเป็นทีมเจียงซูเฉย ๆ

กว่างโจว เอฟเวอร์แกรนด์ ที่แฟนบอลคุ้นหู ก็กลายเป็นกว่างโจวสั้น ๆ

พอเอาชื่อสปอนเซอร์มาปะไม่ได้เหมือนเดิม นายทุนคนออกตังค์ยิ่งคิดหนัก เพราะงานนี้ได้ไม่คุ้มเสียเห็น ๆ

เมื่อโดนทางการบีบ รวมกับพิษหมัดโควิดเข้าไป มันก็เลยกลายเป็นสองแรงบวก

ฟองสบู่แตกกระจาย ลีกจีนจนซะแล้ว !