“ทิม คุก” เยือนจีนครั้งที่สองในรอบปี พร้อมเยี่ยมชมโรงงานผลิต “Apple Vision Pro” และเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน
วันที่ 20 ตุลาคม 2566 สำนักข่าว South China Morning Post รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2566 ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณะรัฐประชาชนจีน นายทิม คุก (Tim Cook) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ “แอปเปิล” (Apple) ได้เยี่ยมชมโรงงานผลิตของ Luxshare Precision Industry (Luxshare-ICT) ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลเจ้อเจียงตะวันออก เพื่อติดตามความคืบหน้าในการผลิต “Apple Vision Pro” แว่น Mixed Reality รุ่นแรกของบริษัท
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว China Daily สื่อของรัฐบาลจีน รายงานว่า โรงงานของ Luxshare กำลังเตรียมงานประกอบ Apple Vision Pro ที่จะวางจำหน่ายในสหรัฐช่วงต้นปีหน้า แต่ Apple และ Luxshare ไม่ได้ให้ความเห็นในประเด็นดังกล่าวทันที
การเยี่ยมชมโรงงานของ Luxshare ที่เป็นหนึ่งในผู้ผลิตแอร์พอด (AirPods) รายใหญ่ แสดงถึง Apple เชื่อมั่นในห่วงโซ่อุปทานการผลิตในจีนอีกครั้ง หลังจากพยายามกระจายฐานการผลิตและการประกอบอุปกรณ์ไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น อินเดีย เวียดนาม เป็นต้น
รายงานข่าวระบุว่า ข้อตกลงระหว่าง Apple และ Luxshare ในฐานะผู้ประกอบ Apple Vision Pro ถือเป็นครั้งแรกที่ Apple ให้บริษัทในจีนเป็นผู้ผลิตสินค้า “รุ่นแรก” รวมถึงจะมีผู้ผลิตรายอื่น ๆ อย่างน้อยอีก 6 ราย เช่น Foxconn Technology Group เข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตส่วนประกอบของ Apple Vision Pro ด้วย
โดยจำนวนผู้ผลิตชิ้นส่วนของ Apple Vision Pro มากกว่าครึ่งเป็นบริษัทในจีนและไต้หวัน แต่ก็ยังมีบริษัทในเกาหลีใต้อย่าง Samsung Electronics และ LG Electronics รวมถึงบริษัทในญี่ปุ่นอย่าง Sony Corporation
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน นายทิมยังได้พบกับนายหวัง เหวินเทา (Wang Wentao) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน ซึ่งนายหวังยืนยันว่าการดำเนินงานของ Apple จะยังได้รับการสนับสนุนจากจีนต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ปัจจัยที่ทำให้นายทิมเยือนจีนเป็นครั้งที่สองของปี หลังจากที่ครั้งแรกมาในช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา คือการที่จีนออกมาตรการห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้ไอโฟน (iPhone) ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายและความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ รวมถึงตอกย้ำความสำคัญของจีนที่เป็นทั้งฐานการผลิตและตลาดในการจำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่
