
“ประชาชาติธุรกิจ” ชวนมาทำความรู้จักชายที่ชื่อว่า “Emmett Shear” ซีอีโอคนใหม่ของ “OpenAI” ที่ต้องรับตำแหน่งท่ามกลางความกดดันในองค์กร
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า คณะกรรมการของ “OpenAI” บริษัทผู้พัฒนาแชตบอตพลิกวงการเทคโนโลยี “ChatGPT” ตัดสินใจว่าจ้าง “เอ็มเม็ตต์ เชียร์” (Emmett Shear) เป็นซีอีโอชั่วคราวของบริษัทแทน “แซม อัลต์แมน” (Sam Altman) หนึ่งในผู้ก่อตั้ง OpenAI ที่ต้องลงจากตำแหน่งซีอีโอเนื่องจากมติของคณะกรรมการ
- MOTOR EXPO 2023 ยอดขายรถ 4 วันแรกทะลุ 8,300 คัน
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
- สพฐ.ประกาศหยุดเรียน 4-8 ธ.ค.ให้นักเรียน ม.ปลายเตรียมสอบ TGAT/TPAT
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวระบุว่า “มิร่า มูราติ” (Mira Murati) ซีอีโอชั่วคราวของ OpenAI วางแผนที่จะพาอัลต์แมนกลับมาดำรงตำแหน่งในบริษัทอีกครั้งท่ามกลางความกดดันของผู้บริหารและนักลงทุนที่ไม่พอใจกับมติของคณะกรรมการ แต่รายงานล่าสุดจากสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เปิดเผยว่า อัลต์แมนจะร่วมงานกับ “ไมโครซอฟท์” (Microsoft) ในฐานะซีอีโอของทีมพัฒนา AI ของบริษัท
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝั่งเริ่มทำให้เห็นการแบ่งขั้วการดำเนินงานและเป้าหมายในการพัฒนา AI ที่ต่างกันมากขึ้น โดยฝั่งของคณะกรรมการยังคงพยายามรักษาจุดยืนการเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และพัฒนา AI เพื่อประโยชน์ของมวลมนุษยชาติ ซึ่งการที่คณะกรรมการดึงตัว “เชียร์” มานั่งในตำแหน่งซีอีโอชั่วคราวของ OpenAI ก็ถือเป็นหนึ่งในแนวทางที่ตอกย้ำจุดยืนนั้น
จากข้อมูลในบัญชี LinkedIn ของ Emmett Shear ระบุว่า เชียร์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยเยล (Yale University) ในปี 2548 และในปี 2549 เชียร์ได้ก่อตั้ง “Justin.tv” แพลตฟอร์มวิดีโอที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถสตรีมคอนเทนต์ได้แบบเรียลไทม์ร่วมกับ “จัสติน คาน” (Justin Kan) และ “ไมเคิล เซเบล” (Michael Seibel)
การเติบโตของ Justin.tv ทำให้ทีมผู้ก่อตั้งตัดสินใจสปินออฟแพลตฟอร์มสำหรับสตรีมคอนเทนต์เกมโดยเฉพาะในปี 2554 นั่นคือ “Twitch” ที่คอเกมหลายคนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และในปี 2557 อเมซอน (Amazon) ได้ซื้อกิจการของ Twitch ในราคา 970 ล้านดอลลาร์ โดยเชียร์ดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Twitch มาตั้งแต่ปี 2554 และลาออกจากตำแหน่งในเดือน มี.ค. 2566
ปัจจุบัน เชียร์ดำรงตำแหน่ง Visiting Group Partner แบบพาร์ทไทม์ใน “Y Combinator” บริษัทที่บ่มเพาะและให้การสนับสนุนสตาร์ตอัพเติบโตเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้จริง (Startup Incubator) ที่อัลต์แมนเคยนั่งแท่นเป็นประธานบริหารจนถึงปี 2562 ด้วย
อย่างไรก็ตาม เชียร์เป็นหนึ่งในผู้บริหารสายเทคฯ ที่สนับสนุนการพัฒนา AI อย่างค่อยเป็นค่อยไป
โดยเชียร์ได้โพสต์ข้อความผ่าน X (Twitter) ส่วนตัวเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาว่า “เราไม่สามารถเรียนรู้วิธีสร้าง AI ที่ปลอดภัยได้หากไม่มีการทดลอง และเราไม่สามารถทดลองได้โดยไม่มีความก้าวหน้า แต่เราก็ไม่ควรก้าวไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่มากเกินไปเช่นกัน” และนี่อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้คณะกรรมการตัดสินใจเลือกเชียร์ให้มาดำรงตำแหน่งซีอีโอชั่วคราวของ OpenAI
ทั้งนี้ เชียร์ได้ประกาศแผนงาน 30 วันแรกในฐานะซีอีโอชั่วคราวของ OpenAI ทั้งหมด 3 ข้อบน X ส่วนตัวว่า
- จ้างผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อตรวจสอบกระบวนการทั้งหมดและสร้างรายงานการทำงานฉบับเต็ม
- พูดคุยกับพนักงาน หุ้นส่วน นักลงทุน และลูกค้าของ OpenAI ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- ปฏิรูปทีมผู้บริหารให้มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนองค์กรและสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อลูกค้าของ OpenAI
และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การตัดสินใจปลดอัลต์แมนลงจากตำแหน่งซีอีโอย่อมทำให้คณะกรรมการของ OpenAI ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นแรงกดดันจากนักลงทุนรายใหญ่อย่าง Microsoft และ Thrive Capital รวมถึงความเชื่อมั่นของพนักงานในองค์กรที่ลดลง ส่งผลให้หลายคนตัดสินใจลาออกไปในที่สุด