ส่อง 3 กรณีศึกษา Immersive Marketing การตลาดแบบดื่มด่ำ เน้นสร้างประสบการณ์ใหม่

Immersive Marketing

สำรวจ 3 กรณีศึกษา “Immersive Marketing” การตลาดแบบดื่มด่ำ รังสรรค์แคมเปญด้วยเทคโนโลยี สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า

วันที่ 10 เมษายน 2567 การตลาดถือเป็นศาสตร์ที่มีการเปลี่ยนผ่านจากยุคสู่ยุคไปตามเทรนด์โลกและเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว จากที่เคยมีวัตถุประสงค์เพียงให้ข้อมูลและสร้างการรับรู้จนนำไปสู่การปิดการขาย กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับผู้บริโภค ดังเช่นศาสตร์ของ “Immersive Marketing” หรือการตลาดแบบดื่มด่ำ

“ฟิลิป คอตเลอร์“ (Philip Kotler) ปรมาจารย์ด้านการตลาดเจ้าของหนังสือขายดีอย่าง Marketing 5.0 และ Marketing 6.0 ได้นิยามความหมายของ “Immersive Marketing” ไว้ว่าเป็นการ “หลอมรวม” ที่ผสานโลกจริงเข้ากับโลกเสมือนผ่านการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาต่อยอดในการสร้างสรรค์แคมเปญการตลาด เช่น Machine Learning, AI, AR/VR และ Voice & Facial Recognition เป็นต้น

ในงาน Immersive Marketing In Action ที่จัดโดย Far East Fame Line DDB และเครือข่ายพันธมิตรได้มีการหยิบยกกรณีศึกษาของ Immersive Marketing มาบอกเล่าไว้มากมาย ซึ่ง “ประชาชาติธุรกิจ” ได้สรุป 3 ตัวอย่างน่าสนใจไว้ ดังนี้

1. StockX

StockX เป็นแพลตฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ในกลุ่มสินค้าแฟชั่นที่พัฒนาช่องทางการขายในรูปแบบของ Virtual Store หรือร้านค้าเสมือนจริงโดยใช้เทคโนโลยี AR และ VR ซึ่งผู้ใช้ Apple Vision Pro แว่น Mixed Reality รุ่นแรกของ “แอปเปิล” (Apple) จะสามารถเลือกชมสินค้าและทำการสั่งซื้อได้บน StockX ทันที

โดยระบบจะแสดงสินค้าในลักษณะ 3 มิติ ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กับการเลือกชมสินค้าที่หน้าร้าน แต่เปลี่ยนให้ประสบการณ์ของลูกค้ามาอยู่บนโลกออนไลน์แทน นอกจากนี้ยังมี J.Crew ร้านขายสินค้าแฟชั่นที่พัฒนาช่องทางการขายในลักษณะที่คล้ายกัน

ภาพจำลองการซื้อสินค้าบน StockX
ภาพจำลองการซื้อสินค้าบน J.Crew

2. Walmart

วอลมาร์ท (Walmart) ยักษ์ค้าปลีกจากสหรัฐอเมริกามีการใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสบการณ์การซื้อในร้านค้าแบบออฟไลน์ โดยจะแสดงรายละเอียดและข้อมูลของสินค้า เมื่อลูกค้าหยิบสินค้าขึ้นมารับชม ช่วยให้ลูกค้ารับทราบข้อมูลของสินค้าโดยไม่ต้องค้นหาเพิ่มเติม เช่น เครื่องโกนหนวดของฟิลิปส์ (Philips) ที่แสดงวิดีโอวิธีการใช้ให้พร้อม เป็นต้น

ภาพจาก YouTube – NewsNation

3. Lowe’s

โลวส์ (Lowe’s) บริษัทค้าปลีกที่เน้นขายสินค้าในกลุ่มของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ในสหรัฐ ได้มีการพัฒนา “โฮโลรูม” (Holoroom) หรือห้องจำลองที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ลองแต่งบ้านตามไอเดียของตนเอง ซึ่งพัฒนาจากเทคโนโลยี AR และ VR

โดยผู้ใช้จะได้สัมผัสประสบการณ์การสร้างบ้านผ่านการใช้งานเทคโนโลยีโลกเสมือน เช่น ก่ออิฐ ฉาบปูน ปูกระเบื้อง ช่วยให้รู้สึกสนุกและเข้าถึงประสบการณ์ใหม่แบบที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน และจากการทำ A/B Testing ของแบรนด์ พบว่าผู้ที่ทดลองกับโฮโลรูมสามารถจดจำวิถีการทำงานได้ดีกว่าที่รับชมวิดีโอบนยูทูบ (YouTube) ราว 36%

ภาพจาก YouTube – Lowe’s Home Improvement