ไทยพร้อมแล้วจริงหรือ (จบ) กับ พ.ร.บ.เก็บภาษีผู้ค้าออนไลน์

คอลัมน์ Pawoot.com

โดย ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

 

คลิกอ่าน >> ไทยพร้อมแล้วจริงหรือ (1) กับ พ.ร.บ.เก็บภาษีผู้ค้าออนไลน์

2.กระทบคนกลุ่มอื่นด้วย เช่น คนที่เล่นแชร์กับเพื่อนฝูงทั้งที่มีจำนวนคนเล่นมากหรือน้อย และวงเงินเท่าใดก็ต้องมีการโอนเงินกันในกลุ่มให้กับคนที่เปียแชร์ได้ในรอบนั้น ๆ แต่หากมีการเปียกันยอดเงินเป็นแสน มือละพันสองพันแต่มีคนเล่นจำนวนเยอะมาก เงินที่จะเข้าบัญชีของคุณก็เข้าข่ายมีความเสี่ยง

3.เงินทำบุญที่มีการระดมเงินเข้ามาโดยให้โอนเงิน ซึ่งอาจเป็นการนำเงินนั้นไปบริจาคต่อ ยิ่งมีคนโอนเงินเข้ามาเยอะก็ยิ่งเสี่ยงโดนสรรพากรประเมินเมื่อมีข้อมูลที่เกินเกณฑ์กำหนด ฉะนั้น บุคคลที่มีเงินเข้าหรือเงินฝากเข้ามาในบัญชีนะครับ (ไม่นับเงินออก) เกินเกณฑ์ที่บอกไป หมายถึงคุณมีความเสี่ยงทันที

คำถามคือ เราจะรับมืออย่างไร วิธีการรับมือเท่าที่ผมลิสต์มาคร่าว ๆ คือ

1.เปิดบริษัท นี่คือสิ่งที่ภาครัฐต้องการ จากตัวเลขที่มีออกมาว่าผู้มีรายได้ประจำ 8 ล้านกว่าคน ยื่นเสียภาษีเพียง 500,000 กว่าคน และบุคคลที่ไม่มีระบบเงินเดือนอีกกว่า 2.5 ล้านคน และที่ยื่นเสียภาษี 300,000 คน นับเป็นตัวเลขที่หายไปเยอะเหมือนกัน ส่วนนิติบุคคลหรือบริษัทมีประมาณ 600,00 ราย และที่ยื่นเสียภาษีมีเพียง 400,000 ราย ฉะนั้น ตัวเลขคนที่มีรายได้แจ้งเข้ามามีไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมด

กฎหมายตัวนี้จึงออกมาเพื่อพยายามดึงคนเข้ามาในระบบภาษี และให้มีการจัดตั้งบริษัทอย่างถูกต้องเพื่อจะได้มีการเสียภาษีอย่างถูกต้อง หากคุณเข้าข่ายที่กล่าวมาข้างต้น เช่น ทำธุรกิจออนไลน์ มีการรับเงินเกินเกณฑ์ดังกล่าว คำแนะนำอย่างแรกที่จะรอดพ้นก็คือการเปิดเป็นบริษัท ใช้บัญชีธนาคารของบริษัทในการรับเงินเข้ามา แต่กฎหมายตัวนี้ก็ยังครอบคลุมไปถึงการเป็นนิติบุคคลอยู่ดี หากมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี และไม่ได้จดภาษีมูลค่าเพิ่ม สรรพากรก็จะรู้ข้อมูลทางการเงินได้เพราะธนาคารยังต้องส่งข้อมูลบริษัทของคุณเช่นกัน คำแนะนำคือเงินที่เข้ามาในบัญชีธนาคารทุกรายการ ทั้งของตัวบุคคลและบริษัท จงเก็บข้อมูลเก็บหลักฐานเอาไว้ว่าเงินนั้น ๆ มาจากแหล่งไหน มีการเสียภาษี หัก ณ ที่จ่ายอย่างถูกต้องหรือไม่

2.หากเป็นบุคคลธรรมดาและเข้าข่ายว่ามีรายรับเกินแน่ ๆ วิธีการเดียวกันคือ เก็บหลักฐานไว้ และหากยังมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทก็ควรต้องไปจดภาษีมูลค่าเพิ่ม หากเป็นเงินปันผลจากการซื้อขายหุ้นที่มีการหักภาษีไปแล้วก็ควรมีหลักฐานไว้

สิ่งสำคัญคือหลักฐานทางการเงินเหล่านี้ต้องเก็บไว้อย่างดี เพราะหากวันใดวันหนึ่งสรรพากรเข้ามาตรวจสอบเงินในบัญชีของคุณและไม่มีหลักฐานยืนยันอาจโดนประเมินภาษีย้อนหลังได้ ทั้งหมดนี่ผมมองตามความเข้าใจในเรื่องภาษีของผมเท่านั้นนะครับ

ถามว่าเราพร้อมแล้วจริงหรือกับ พ.ร.บ.เก็บภาษีผู้ค้าออนไลน์

สุดท้ายซึ่งเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย ผมยังมองไม่เห็นว่าแบงก์ไทยจะสามารถรองรับการทำรายงานธุรกรรมแบบนี้ได้ เพราะยังไม่มีระบบไหนเข้ามารองรับ ผู้ให้บริการ e-Payment หลายรายก็ยังไม่มีระบบที่รองรับนี้ เพื่อรายงานเจ้าหน้าที่สรรพากรด้วยเช่นกัน ผมจึงเห็นว่าควรที่จะมีช่วงเวลาให้ทดลองก่อนมีการปฏิบัติใช้จริง เพื่อความพร้อมในการปฏิบัติของทุก ๆ ฝ่ายจริง ๆ

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!