การเมืองฉุดมู้ดไอที ลุ้นฟื้นครึ่งปีหลัง “เกมมิ่ง” ยังหนุนตลาดโต

ภาพรวมสินค้าไอทีปี”62 ยังซบเซาต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี”61 เหตุการเมืองไม่นิ่ง ฉุดคนไม่กล้าจับจ่าย เชื่อตลาดฟื้นไตรมาส 3 หลังผลเลือกตั้งชัด คาดเกมมิ่งยังแรงดันตลาดโต ฟากงานคอมมาร์ตลุยจัดต่อชี้ผ่านวิกฤตมาครบ

นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอทีและดิจิทัล บมจ.เออาร์ไอพี ผู้จัดการคอมมาร์ต กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จัด ณ ศูนย์การประชุมไบเทค คาดจะมีผู้ชมงานราว 6 แสนคน ลดจากเดิมที่ 7-8 แสนคน เนื่องจากย้ายที่จัดงาน และการรับรู้อาจยังน้อย

ส่วนยอดเงินสะพัดในงานน่าจะแตะ 3,000 ล้านบาทเท่ากับครั้งก่อน จากการเลือกซื้อในราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเกมมิ่งและสินค้าประสิทธิภาพสูงสำหรับการทำงานตัดต่อวิดีโอ โดยมียอดขายสินค้าคอมพิวเตอร์ราว 60% อุปกรณ์เสริม 30% และ 10% เป็นโมบาย

“โซเชียลมีเดียมาแรง โดยเฉพาะการทำวิดีโอ บางคนทำเป็นอาชีพ ต้องการอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ เมื่อก่อนจะมีแค่สินค้า Mac ของ Apple แต่ตอนนี้เริ่มขยับไปแบรนด์อื่นและคอมพ์ประกอบ”

ตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กปีนี้คาดว่าทรงตัวที่ราว 2.5 ล้านเครื่อง ราคาเฉลี่ยขยับไปที่ 2-3 หมื่นบาท/เครื่อง มองว่าไตรมาส 2 และ 3 ไม่น่าได้รับผลกระทบจากการเมือง

“ปีนี้จะมีจัดคอมมาร์ตอีก 2 ครั้ง ก็รู้ว่าการเมืองยังไม่นิ่ง แต่ก็ไม่ได้กังวล เพราะเคยผ่านมาหลายเหตุการณ์”

ด้านนายถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ เลอโนโว ประเทศไทย กล่าวว่า ไตรมาสแรกตลาดยังซึม จากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจและการเลือกตั้ง แต่ไอทีกระทบน้อยกว่าตลาดอื่น คาดว่าจะฟื้นช่วงไตรมาส 3 โดยมีกลุ่มเกมมิ่งเป็นแรงขับเคลื่อน มีสัดส่วนราว 30% และอีก 40-50% โน้ตบุ๊กบางเบา

“ผู้บริโภคมีเงิน แต่ยังไม่อยากจับจ่าย ครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น เพราะไตรมาส 2 แบรนด์จะเปิดสินค้าใหม่ แล้วเข้าช่วงโปรโมชั่นโละสต๊อก และการเมืองนิ่งแล้ว”

ปีที่ผ่านมา เลอโนโวเติบโต 10% ทั้งแง่จำนวนและมูลค่า ปีนี้ตั้งเป้าโตอีก 20% ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดเกมมิ่ง จากปัจจุบันเป็นเบอร์ 1 เฉพาะเกมมิ่งไฮเอนด์ราคา 30,000 บาทขึ้นไป ปีนี้จึงจะรุกเจาะกลุ่มเกมมิ่งระดับเริ่มต้น ราคา 20,000 บาทให้มากขึ้น โดยสานต่อการจัดแข่งขันเกมในระดับมหาวิทยาลัย

นายสมยศ เชาวลิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ตลาดสินค้าไอทีซบเซาตั้งแต่กลางปีก่อน ปีนี้ยังไม่เห็นปัจจัยบวก แต่เชื่อว่าถ้าการเมืองชัดเจน ตลาดจะดีขึ้น เพราะคนมั่นใจจะจับจ่ายไตรมาสแรก บริษัทโต 5-6% สินค้าขายดีเป็นกลุ่มเกมมิ่ง ขณะที่โน้ตบุ๊กราคาเฉลี่ย 27,000 บาท คอมพ์ประกอบราคาเฉลี่ย 45,000 บาท โดยระยะเวลาการเปลี่ยนของกลุ่มราคาระดับบนอยู่ที่ 1-2 ปี

กลุ่มล่างเปลี่ยนทุก 3-4 ปี 

“เราเน้นทุกกลุ่ม แต่สินค้ากลุ่มล่างขายไม่ออก แต่กลาง-บนขายดี มองว่าคนมีเงิน แค่ยังไม่ยอมจับจ่าย รอดูท่าที”

ปีที่แล้วบริษัทมีรายได้ 9,200 ล้านบาท โต 11-12% ปีนี้ตั้งเป้าโต 10% รายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท เตรียมลงทุน 350 ล้านบาท เน้นสร้างแบรนดิ้ง เพิ่มอีก 15 สาขา และรีโนเวตใหม่อีก 10 สาขา รวมถึงนำสมาร์ทโฟนมาขาย

“จุดแข็งคือ ออนไลน์ สั่งได้ 24 ชั่วโมง ส่งภายใน 3 ชั่วโมงในกรุงเทพฯและปริมณฑล คอมมาร์ตปีนี้เปิดให้ลูกค้าสั่งสินค้าราคาพิเศษผ่านเว็บได้ด้วย”

ปัจจุบันเป็นที่ 1 ในมาร์เก็ตเพลสคนไทย มียอดเข้าชม 3 ล้านคน/เดือน สั่งซื้อ 15,000 ออร์เดอร์ รวมรายได้เดือนละ 100 ล้านบาท เติบโต 26% จากปีที่ผ่านมา คิดเป็น 11% ของรายได้ทั้งหมด ตั้งเป้าปีนี้โต 40% และมียอดขาย 300 ล้านบาทภายใน 2 ปี พร้อมเตรียมขยายไปกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในอนาคต