กลับมาอีกครั้ง! พบทัพผู้ประกอบการธุรกิจไอที-ดิจิทัลเพื่อ SMEs ในงาน CEBIT ASEAN Thailand 2019

“อิมแพ็ค” จัดงานใหญ่ CEBIT ASEAN Thailand 2019 ขนผู้ประกอบการ 214 รายด้านธุรกิจไอที-ดิจิทัลเพื่อ SMEs จาก 12 ประเทศ จัดแสดงสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลครบวงจร คาดมีผู้เข้าชมงานกว่า 8  พันราย มีการเจรจาธุรกิจมากกว่า 200 นัดหมาย 27-29 พ.ย.นี้ ณ อาคาร 7 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี

มิสเตอร์ซาจิด ฮูเซนี ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายงานแสดงสินค้าภาคธุรกิจ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ถึงการจัดงาน CEBIT ASEAN Thailand 2019 ว่า เป็นการนำเสนอแพลตฟอร์มเพื่อธุรกิจและความรู้ด้านไอทีและดิจิทัลแบบครบวงจร เป็นจุดนัดพบของผู้เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีและธุรกิจที่สามารถอัพเดทเทรนด์นวัตกรรม เทคโนโลยี และโซลูชั่นล่าสุด

ซึ่งนอกจากจัดแสดงสินค้าแล้ว ภายในงานมีกิจกรรมอีกจำนวนมาก เช่น การประชุม CEBIT x Tech Talk Thai รวมทั้งอีกหลากลายสัมมนาที่จัดโดยสมาคมและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ เอสเอ็มอี คลินิก และโซนจัดแสดงหุ่นยนต์ ระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน 2562 ณ อาคาร 7 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ทั้งนี้ คาดว่างานดังกล่าวจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 8,000 ราย มีการเจรจาธุรกิจมากกว่า 200 นัดหมาย พร้อมด้วย 80 วิทยากรชั้นนำในอุตสาหกรรมกับการประชุมสัมมนาเชิงวิชาการและธุรกิจกว่า 17 หัวข้อ เพื่อสร้างเวทีที่ขับเคลื่อนไปด้วยธุรกิจ คอนเทนต์ และองค์ความรู้สำหรับอุตสาหกรรม

นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กล่าวว่า ในนามของหน่วยงานภาครัฐ ดีป้ามุ่งผลักดันให้เกิดการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในหลากหลายบริบท เพื่อตอบโจทย์การทำธุรกิจของผู้ประกอบการ ตลอดจนการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยงาน CEBIT ASEAN Thailand ถือเป็นงานที่สามารถตอบโจทย์เทคโนโลยีและดิจิทัลแบบครบวงจร ด้วยการเชื่อมโยงทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดความร่วมมือกันทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งตรงกับเป้าหมายการทำงานของดีป้า และเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม

Advertisment

โดยภายในงานนี้ได้รวบรวมผู้ประกอบการกว่า 200 รายจาก 12 ประเทศ ที่เป็นผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีหลากหลายแขนง ทั้งนี้ยังมีการสอดแทรกด้วยเนื้อหาความรู้ที่ถ่ายทอดผ่านผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลกว่า 80 ราย ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาความรู้ของกำลังคนจุดประกายด้านการพัฒนาธุรกิจเพิ่มขึ้น ถือเป็นอีกกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ไม่เพียงแต่กับผู้มีความต้องการใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลเพื่อการทำธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ในวงกว้างสำหรับคนทั่วไปได้สร้างเสริมความรู้เพื่อความยั่งยืนในยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล

ด้านนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า CEBIT ASEAN Thailand 2019 ที่เป็นเวทีแสดงสินค้า เจรจาธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ผู้ประกอบการ StartUp SMEs และบริษัทต่างๆ เพื่อการสร้าง และขยายธุรกิจ รวมถึงการเป็นเวทีให้ความรู้ที่ทันต่อสถานการณ์ให้กับผู้ประกอบการและผู้ที่ทำงานในแวดวง IT ให้สามารถก้าวต่อไปในอนาคตได้อย่างมั่นคง

ซึ่งการสร้างโอกาสและอนาคตให้กับทรัพยากรมนุษย์ดังกล่าวเป็นภารกิจหลักด้านหนึ่งของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมที่มีเป้าหมายในการผลักดันคนไทยให้เป็น Smart Citizen ทั้งการสร้างบัณฑิตที่พร้อมทำงานในสาขาอาชีพใหม่ๆ การ Reskill และUpskill เพิ่มเติมทักษะให้กับวัยแรงงานเพื่อเพิ่มรายได้ และสามารถเปลี่ยนอาชีพเพื่อรองรับอนาคตที่แรงงานจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนการสร้างและพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมผ่านเครือข่ายนักวิจัยในสังกัด เพื่อเป็นการส่งผลถึงการพัฒนาระบบนิเวศน์การวิจัยให้เอื้อต่อการกระตุ้นให้ภาคเอกชนลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาไปสู่ผู้ประกอบการนวัตกรรมในอนาคต

ขณะที่นางสาวกนกพร ดำรงกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าว่า ทีเส็บมีนโยบายใช้งานแสดงสินค้านานาชาติขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในกลุ่ม 12 อุตสาหกรรมหลักของนโยบาย 4.0 การสนับสนุนงาน CEBIT ASEAN Thailand เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้จึงเป็นการดำเนินตามนโยบายดังกล่าว และเป็นการช่วยสะท้อนให้ตลาดมองเห็นพลวัตและโอกาสทางธุรกิจของอุตสาหกรรมดิจิทัลในประเทศไทยและมองเห็นย่างก้าวที่ไม่หยุดนิ่งของประเทศไทยที่มุ่งยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยอุตสาหกรรมชั้นสูง

Advertisment

โดยแนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับการจัดอันดับอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศไทยในตลาดโลกที่มีการขยับตัวสูงขึ้น และเพื่อช่วยเพิ่มน้ำหนักในการขับเคลื่อนโอกาสทางธุรกิจของงาน CEBIT ASEAN Thailand ทีเส็บได้ให้การสนับสนุนผ่านแคมเปญ ASEAN+6 Privilege สามารถดึงผู้ซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอินโดจีนให้มาเจรจาซื้อขายในงาน ซึ่งเป็นการช่วยตอกย้ำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาคต่อไป