ซัมซุง-แอลจี ระเบิดศึกชิงเจ้าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า AI ลั่นเตรียมส่งสินค้าใหม่ทั้ง TV อุปกรณ์สมาร์ทโฮมพลัง AI
วันที่ 14 มกราคม 2567 ปี 2024 นี้ นอกจากมือถือและคอมพิวเตอร์แล้วปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะเริ่มรุกเข้าสู่บ้านเรือนของผู้คนทั่วโลกด้วย หลัง 2 ยักษ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งซัมซุง และ LG ต่างประกาศการนำ AI มาใช้งานจริงในสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่จะออกสู่ตลาดหลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นทีวี หรือระบบสมาร์ทโฮม
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
- BITE SIZE : ถอนเงินไม่ใช้บัตร ข้ามแบงก์ได้แล้ว ธนาคารไหนรองรับบ้าง
ซัมซุงลั่น เข้าสู่ยุค AI Screen ทีวีพลัง AI
ซัมซุงประกาศเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์จอภาพใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับ AI ซึ่งจะช่วยอัพเกรดภาพและเสียงให้ดีขึ้น เสริมกับจุดเด่นด้านเทคโนโลยีหน้าจออย่าง QLED, MICRO LED, OLED
SW Yong ประธานและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจจอภาพซัมซุง อธิบายว่า จอภาพ AI ของบริษัทนั้นจะมีเทคโนโลยี AI แบบ On-Device หรือมีตัวประมวลผล AI ซึ่งรวดเร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 2 เท่า โดยมีไฮไลต์เป็นรุ่น Neo QLED TV 8K ที่มีตัวประมวลผล AI รุ่นใหม่ NQ8 AI Gen 3 ติดตั้งมาในเครื่อง โดย AI นี้จะใช้ในฟังก์ชั่นต่าง ๆ ประกอบด้วย
8K AI Upscaling Pro : เพิ่มความคมชัดให้กับเนื้อหาที่มีความละเอียดต่ำกว่า 8K ตอบโจทย์ปริมาณคอนเทนต์ 8K ที่ยังมีปริมาณไม่มากนัก
AI Motion Enhancer Pro : แก้การบิดเบือนของวัตถุขนาดเล็กบนหน้าจอ เช่น ลูกบอล ตอบโจทย์การชมกีฬาอย่าง ฟุตบอล บาสเกตบอล ฯลฯ โดย AI จะตรวจจับประเภทของกีฬาโดยอัตโนมัติและใช้การเรียนรู้เชิงลึกเพื่อเลือกใช้รูปแบบการตรวจจับลูกบอลที่เหมาะสมสำหรับการแข่งขันนั้น ๆ
Real Depth Enhancer Pro : เพิ่มรายละเอียดให้ฉากที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโดยใช้ AI มาควบคุมหลอด LED ขนาดเล็กให้แม่นยำมากขึ้น ช่วยให้ภาพดูเป็นสามมิติมากขึ้น ผ่านการตรวจจับส่วนของฉากที่ดวงตาของมนุษย์จะโฟกัสโดยธรรมชาติและนำมาไว้ข้างหน้าสุด
Active Voice Amplifier Pro : ใช้ AI ช่วยให้เสียงสนทนาชัดเจนยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์นี้สามารถแยกเสียงต่าง ๆ ออกจากกัน ทำให้ผู้ชมสามารถติดตามบทสนทนาที่ปรากฏบนหน้าจอได้ง่ายในทุกระดับเสียง
แอลจี ดึง AI ปั้นโซลูชั่นบ้านอัตโนมัติ
ปีนี้แอลจีประกาศวิสัยทัศน์ที่จะนำ AI มาสร้างโซลูชั่นสมาร์ทโฮมที่ทำงานแบบอัตโนมัติเต็มขั้น ตั้งแต่การหาความต้องการของผู้ใช้งานจากเซ็นเซอร์ เช่น ความเคลื่อนไหว อุณหภูมิ เสียง ภาพ ฯลฯ แล้วเสนอการตั้งค่าที่เหมาะสมให้เลือก หรือแม้แต่ตั้งเองโดยอัติโนมัติ
นายวิลเลียม โช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของแอลจี กล่าวว่า บริษัทจะนำ AI มาใช้ใน 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ สร้างสมาร์ทโฮมที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของแอลจีซึ่งเซ็นเซอร์ต่าง ๆ จะตรวจจับความต้องการของพวกเขาในเชิงรุก และเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสมให้โดยอัตโนมัติ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเข้ามาจัดการด้วยตัวเอง
ตัวอย่างเช่น หากลูกค้านำแมวตัวใหม่เข้ามาเลี้ยงในบ้าน ไมโครโฟน กล้อง และเซ็นเซอร์คลื่นมิลลิเมตรที่ฝังอยู่ในอุปกรณ์ต่าง ๆ ในบ้านจะตรวจจับการเคลื่อนไหวของแมว และจะแจ้งถามโดยอัตโนมัติว่าจะดาวน์โหลด ‘โหมดสัตว์เลี้ยง’ สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มีระบบ LG ThinQ UP หรือไม่ หรือจะแนะนำให้ใช้ชุดอุปกรณ์เสริมสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ
รวมถึงยังมีหุ่นยนต์ AI สมาร์ทโฮมที่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยสองล้อเพื่อต้อนรับแขก และทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยภายในบ้าน รวมถึงเป็นฮับของระบบ โดยให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันแก่ลูกค้าได้อย่างครอบคลุมผ่านการเชื่อมต่อและจัดการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและอุปกรณ์ IoT เมื่อติดตั้งกล้อง ลำโพง และเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในบ้านจะสามารถรวบรวมข้อมูลสภาพแวดล้อมภายในบ้านได้แบบเรียลไทม์ เพื่ออำนวยความสะดวกจากการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า
นอกจากนี้ จอแสดงผลบนใบหน้ายังช่วยให้หุ่นยนต์สามารถแสดงสีหน้าต่าง ๆ ได้ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและสื่อสารกับลูกค้าได้ทันที
อีกรูปแบบคือ นำ AI มาใช้ออกแบบสินค้าและโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ ด้วยเทคโนโลยี LG AI Brain ที่วิเคราะห์ข้อมูล “การใช้งานจริง” จากอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ของแอลจี และอุปกรณ์ประเภท IoT อีกหลายชนิด โดยอุปกรณ์เหล่านี้จะส่งข้อมูลอย่างรูปแบบการใช้งานของลูกค้า สภาพแวดล้อม รูปแบบพฤติกรรม รวมไปถึงอารมณ์ในตอนนั้น ทำให้บริษัทสามารถมองเห็นภาพที่ครบสมบูรณ์เกี่ยวกับวิถีชีวิตในบ้านของลูกค้า ซึ่งจะทำให้สามารถสร้างโซลูชั่นสำหรับไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ที่ดีขึ้น
