“ฮาเก้น-ดาส” สปีดสาขาชิงตลาด 9,000 ล้าน

ฮาเก้น-ดาส ชูไอศกรีมรสชาติใหม่ เจาะกลุ่มวัยรุ่น พร้อมทุ่มงบฯ 20 ล้านบาท เร่งขยายสาขาในปีนี้เพิ่มทั่วไทย

นางสาววราพร คงคาวิเศษ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท เจนเนอรัล มิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายไอศกรีมฮาเก้น-ดาส เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดไอศกรีมในไทยเติบโตขึ้น 6% มีมูลค่า 9,000 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันผู้ผลิตและจำหน่ายไอศกรีม ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้ตลาดไอศกรีมในไทยโตขึ้นและเริ่มมีการแข่งขันสูงแม้ว่าอัตราการบริโภคไอศกรีมของไทย อยู่ในระดับ 1-2 ลิตรต่อคนต่อปี ซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ เช่น อเมริกาที่มีการบริโภคไอศกรีมถึง 26 ลิตรต่อคนต่อปี

ปัจจุบันฮาเก้น-ดาส ครองส่วนแบ่งตลาดรวมไอศกรีมระดับพรีเมี่ยมมูลค่า 600 ล้านบาทด้วยสัดส่วน 20% ซึ่งตลาดไอศกรีมพรีเมี่ยมโต 30% มีปัจจัยมาจากการขยายช่องทางจำหน่าย และการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาช่วยสร้างแบรนด์อะแวร์เนส

ทั้งนี้ ฮาเก้น-ดาส เริ่มพัฒนาไอศกรีมสูตรใหม่ และเปิดตัวไอศกรีมระดับพรีเมี่ยมลิมิเต็ดเอดิชั่นรสใหม่ กับไวต์พีช และราสป์เบอรี่ เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย ซึ่งวัตถุดิบทั้งหมดนำเข้าจากต่างประเทศ โดยมีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส

นอกจากนี้บริษัททุ่มงบฯ 20 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาและรีโนเวต โดยปีนี้จะเปิดเพิ่ม 30 สาขา จากปัจจุบันมี 30 สาขา เพื่อขยายตลาดให้แข็งแกร่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ฮาเก้น-ดาสได้เร่งกิจกรรมทางการตลาดผ่านแคมเปญ “Let”s Fruity Party” เพื่อโปรโมตกลุ่มไอศกรีม ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมแผนการสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา ให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันฮาเก้น-ดาส ไอศกรีม 2 รสชาติใหม่ ลิมิเต็ดเอดิชั่น วางจำหน่ายในรูปแบบไพนต์ 359 บาท และมินิคัพ 109 บาท จำหน่ายผ่านทางร้านซูเปอร์มาร์เก็ตและคอนวีเนี่ยนสโตร์ โดยตั้งเป้ารายได้รวมในปีนี้เติบโตกว่า 50%