กิฟฟารีนงัดทุกกลยุทธ์เร่งดันรายได้ทะลุ 5 พันล้านสิ้นปี ยกขบวนสินค้าเพื่อสุขภาพ-ความงามปลุกตลาดครึ่งปีหลัง อัดฉีดแคมเปญใหญ่เพิ่มของรางวัลกระตุ้นนักขายคึกคัก
นายพงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ผลประกอบการของบริษัทในครึ่งแรกของปีนี้มีอัตราเติบโต 2-3% ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา โดยต้องการผลักดันยอดขายในปีนี้ให้มากกว่า 5,000 ล้านบาท ทิศทางในครึ่งปีหลังจึงต้องงัดทุกกลยุทธ์สร้างการเติบโต อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ การสร้างระบบสนับสนุนนักขาย นำเสนอบริการต่าง ๆ ให้นักธุรกิจและผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น อาทิ สั่งซื้อดีลิเวอรี่ รองรับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่นิยมช็อปปิ้งจากที่บ้าน
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ด้านสินค้าเดือนนี้ได้มีการเปิดตัวสินค้าใหม่มากกว่า 10 รายการ โดยเฉพาะกลุ่มสุขภาพและความงาม คาดหวังว่าการลอนช์สินค้าในไตรมาสที่ 3 นี้จะกระตุ้นตลาดให้มีความคึกคัก โดยเฉพาะบรรยากาศการทำงานของนักขาย ซึ่งสามารถนำเสนอสินค้าได้ต่อเนื่อง ซึ่งโดยปกติของตลาดขายตรงครึ่งปีหลังจะมียอดขายสูงกว่าครึ่งปีแรก จึงมองว่าจะสร้างสีสันช่วยกระตุ้นยอดขายได้ดี และเป็นแรงส่งเสริมสินค้าเดิมที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้ให้มีโอกาสขายด้วย
“ตลาดสุขภาพและความงามยังเป็นเทรนด์ต่อเนื่องและมีโอกาสจากอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ เพราะพฤติกรรมลูกค้าให้ความสำคัญกับการดูแลบุคลิกที่ดี ทั้งผิวพรรณ สุขภาพ และรูปร่างที่ดี บวกกับแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้ก็มีความต้องการดูแลผิวพรรณ สุขภาพ และรูปร่าง เหมือนกัน ดังนั้นแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จึงไม่ได้ตอบโจทย์ลูกค้าตามช่วงวัย แต่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าและนำเสนอสินค้าให้ตรงใจ”
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นกลุ่มที่มีอัตราเติบโตดี เฉลี่ย 7-10% อย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเรด ออเรนจ์ คอมเพล็กซ์ 12 ที่เพิ่งเปิดตัวเพียง 2 สัปดาห์ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเกิดคาด ขณะที่ยอดขายสกินแคร์ค่อนข้างนิ่ง ปัจจุบันรายได้หลักมาจากสกินแคร์ 30% และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 30% อื่น ๆ อาทิ เมกอัพ 10%
นายพงศ์พสุกล่าวว่า ผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อ แต่มีความระมัดระวังในการใช้จ่ายด้วยการเลือกซื้อของที่จำเป็นในการใช้ชีวิตและช่วยแก้ปัญหา เช่น ผลิตภัณฑ์แก้ฝ้า โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯและภาคอีสานยังเติบโตได้ดี ทั้งนี้ภัยธรรมชาติ อาทิ น้ำท่วมมีผลบ้างในแง่ของอารมณ์จับจ่ายนิ่ง กิฟฟารีนเตรียมงบฯการตลาดทั้งปีไว้ 100 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกใช้ไปเกือบ 50 ล้านบาท อาทิ งบฯท่องเที่ยว รางวัลอินเซนทีฟ และการจัดอีเวนต์ต่าง ๆ โดยเน้นไปที่แคมเปญส่งเสริมนักขายเพื่อสร้างบรรยากาศให้คึกคัก อาทิ แคมเปญรวยรับล้านแจกใหม่ ใหญ่กว่าเดิม ที่มีการเพิ่มมูลค่าของรางวัล ส่วนภาพยนตร์โฆษณาที่มีการลอนช์ออกมาช่วงหลายปีเป็นปกติ
สำหรับปีนี้อยู่ระหว่างวางแผน ซึ่งบรรยากาศและสถานการณ์ของตลาดในปีนี้ค่อนข้างคาดการณ์ยากในแง่ของการวางแผนทำการตลาด จึงอาจจะต้องรอดูสถานการณ์อีก 1-2 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้หันมาทำการตลาดออนไลน์มากขึ้น โดยนักธุรกิจหันมารีวิวสินค้ามากขึ้น
“ปีนี้เรียกว่าคิดกันวันต่อวัน เราต้องประเมินสถานการณ์ ประเมินบรรยากาศ ธุรกิจขายตรงโดยรวมปรับตัวตามสถานการณ์หันกลับมาทำกิจกรรมภายในองค์กร ช่วงนี้ประคองตัวแต่คาดว่าจะเห็นการโหมทำการตลาดภายนอกกันในไตรมาสสุดท้าย”
