การตลาด

โรงหนัง ทางเลือก “เฮ้าส์” ปักหมุดกลางเมือง

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

ด้วยจำนวนภาพยนตร์ทั่วโลกที่เข้าฉายมากถึง 3,000 เรื่องต่อปี ขณะเดียวกันมีเพียงแค่ 10% เท่านั้น หรือประมาณ 300 เรื่องต่อปี ที่ถูกเลือกเข้ามาฉายในโรงภาพยนตร์ในไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหนังทำเงิน ฟอร์มยักษ์ ที่เจาะคนดูกลุ่มแมส จึงยังมีโอกาสอีกมากจากหนังอีกกว่า 2,000 เรื่อง ที่ไม่ได้ถูกเลือกเข้ามาฉาย เข้ามาทำตลาดในไทย

“พงศ์นรินทร์ อุลิศ” ผู้ร่วมก่อตั้งโรงภาพยนตร์เฮ้าส์ กล่าวว่า ช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ตลาดหนังเปลี่ยนเร็ว และพฤติกรรมคนดูก็เปลี่ยนไปด้วย โดยแยกย่อยตามเซ็กเมนเตชั่นมากขึ้น ทำให้หนังนอกกระแส หนังทางเลือกจากสตูดิโอเล็ก ๆ ได้รับความเพิ่มขึ้นไปด้วย จึงมีจำนวนโรงภาพยนตร์อิสระเพิ่มขึ้นด้วย เช่น แบงค็อกสกรีนนิ่งรูม (Bangkok Screening Room) เป็นต้น ขณะเดียวกันโรงภาพยนตร์รายใหญ่อย่าง เอสเอฟ และเมเจอร์ กรุ๊ป ที่ปลุกกระแสหนังเล็กเหล่านี้ด้วยการจัดเทศกาลหนังและการนำหนังเหล่านี้เข้ามาฉายมากขึ้น ก็ส่งผลให้ตลาดหนังเล็กโตขึ้น และมีฐานคนดูกว้างมากขึ้น

“แต่ละปีมีภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายทั่วโลกอยู่กว่า 3,000 เรื่องต่อปี แต่มีหนังที่ได้เข้าฉายในไทยแค่ 300 เรื่องต่อปี จึงมีหนังนอกกระแสอีกกว่า 2,700 เรื่อง ที่ไม่มีโอกาสเข้ามาฉายในไทย ซึ่งตลาดนี้มีโอกาสโตเพราะมีกลุ่มคนดูอยู่ระดับหนึ่ง ทำให้เราตัดสินใจเปิดโรงหนังอิสระอย่าง “เฮ้าส์ อาร์ซีเอ” ขึ้นเมื่อ 14 ปีก่อน และจากประสบการณ์ที่ผ่านมาก็พบว่า จำนวนคนดูหนังทางเลือกเพิ่มขึ้น สะท้อนจากยอดขายตั๋วของเฮ้าส์ อาร์ซีเอ ที่โตขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 1 แสนใบต่อปี”

ด้วยโอกาสที่ขยายตัวขึ้น ล่าสุดได้ตัดสินใจจะเปิดโรงหนังเฮ้าส์ สามย่าน โดยจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 2 ปี 2562 และจะเปิดให้บริการปลายปี 2562 ขณะที่คอนเซ็ปต์ของโรงยังยึดแกนหลัก คือ เรียบง่าย อบอุ่น พร้อมเพิ่มความหรูหรา ทันสมัยมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักเรียน นักศึกษา และวัยทำงานมากขึ้น ส่วนโรงหนังเฮ้าส์ อาร์ซีเอ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะปิดบริการหรือไม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้

“พงศ์นรินทร์” กล่าวต่อว่า สำหรับเฮ้าส์ สามย่าน จะเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องข้อจำกัดด้านการเดินทาง ด้วยทำเลที่ตั้งที่ติดกับ MRT สามย่าน เพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการ ประกอบกับพื้นที่ที่กว้างขึ้น และจำนวนโรงที่เพิ่มเป็น 3 โรง 3 ขนาด รวม 440 ที่นั่ง จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น จากเดิมที่ “เฮ้าส์ อาร์ซีเอ” เปิดบริการแค่ 2 โรง รวม 250 ที่นั่งเท่านั้น

ทั้งนี้ ด้วยจำนวนโรงที่เพิ่มขึ้น และกระแสของหนังทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ดังนั้น จึงเตรียมเพิ่มจำนวนหนังที่จะเข้ามาฉายเป็นเท่าตัว หรือประมาณ 120 เรื่องต่อปี จากปัจจุบันที่เข้าฉาย 60-70 เรื่องต่อปีนั่นหมายถึงรายได้ของเฮ้าส์ก็จะโตขึ้นด้วย และคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนอย่างเร็วที่สุดภายใน 6 ปี

“พงศ์นรินทร์” ย้ำว่า แม้จำนวนหนังจะมีมาก ทั้งหนังจากญี่ปุ่น นอร์เวย์ ฝรั่งเศส ซึ่งเราก็เลือกหนังจากทุกประเทศเข้ามาฉาย และเชื่อว่าแต่ละเรื่องก็มีฐานคนดู เพราะท้ายที่สุด หนังจะเลือกคนดูเอง ไม่ใช่เรา ทำให้หนังทางเลือกจึงมีโอกาสโตได้อีก

สอดรับกับ “ชมศจี เตชะรัตนประเสริฐ” ผู้ร่วมก่อตั้งโรงภาพยนตร์เฮ้าส์ กล่าวเสริมว่า สำหรับเฮ้าส์ สามย่าน เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากเฮ้าส์ อาร์ซีเอ ตั้งอยู่บนชั้น 5 ของโครงการสามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งจะเป็นโรงภาพยนตร์แบบมิกซ์ยูสเต็มรูปแบบที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ บนพื้นที่กว่า 1,800 ตารางเมตร ภายใต้งบฯลงทุน 40-45 ล้านบาท รวมถึงมีการพัฒนาระบบการจองตั๋วภาพยนตร์ผ่านออนไลน์ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล และตั้งเป้าหมายว่าจะขยายฐานคนดูเป็น 200,000 คนต่อปี

ในส่วนกลยุทธ์การตลาด จะเน้นการจัดอีเวนต์ แคมเปญการตลาดที่แปลกใหม่ ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนดูกลุ่มนี้ เช่น เทศกาลหนังที่คนดูเลือกเอง ด้วยการโหวตของคนดู เป็นต้น ขณะที่ราคาค่าตั๋วเบื้องต้นคาดว่าจะคงราคาเดิม คือ 140 บาทต่อใบในทุกรอบทุกเรื่อง

ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป และจำนวนหนังในอุตฯที่เพิ่มปริมาณขึ้น กลายเป็นโอกาสใหญ่ของหนังทางเลือกและโรงหนังอิสระด้วยเช่นกัน