แมลง “ไฮโซ” แตกไลน์ธุรกิจ ส่งเครื่องดื่มสุขภาพเสริมทัพ

แมลงอบกรอบ “ไฮโซ” เขย่าตลาดสแน็กพร้อมทาน ทุ่มสร้างฟาร์มป้อนธุรกิจไทย/เทศ พร้อมส่งสินค้าใหม่-แตกไลน์ธุรกิจเครื่องดื่มสุขภาพ เสริมทัพยอดขาย หลังเศรษฐกิจกำลังซื้อชะลอตัว-นักท่องเที่ยวจีนหาย คาดยังทำยอดขายได้ตามเป้า 100 ล้านบาทในสิ้นปี
 
นายทัดณัฐ ฉันทธรรม์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สไมล์ บลู มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของแบรนด์แมลงอบกรอบ “ไฮโซ” เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากที่บริษัทได้พัฒนาแมลงอบกรอบไฮโซขึ้นเพื่อรับกับช่องว่างของตลาด ที่ขณะนั้นยังไม่มีแบรนด์ทอด หรืออบกรอบ จำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ มีแต่ช่องทางของรถเข็น งานวัด ซึ่งทำให้คนทั่วไปหาซื้อได้ยาก ขณะเดียวกันความนิยมในการทานแมลงทอดก็มีปริมาณเพิ่มขึ้น จากการมีคุณค่าทางอาหารสูง ทั้งโปรตีน และคาร์โบไฮเดรต
 
โดยในช่วงแรกได้นำแมลงจิ้งหรีด (แมงสะดิ้ง) และดักแด้ นำมาปรุงรสชาติใหม่บรรจุในซอง มีให้เลือก 5 รสชาติ ได้แก่ รสดั้งเดิม โนริสาหร่าย ต้มยำ บาร์บีคิว รสชีส ในขนาด 5 กรัม 8 กรัม และ 15 กรัม จำหน่ายเริ่มต้นในราคา 10-25 บาท มีจุดเด่นด้านความสะดวก พร้อมทาน เก็บไว้ได้นานถึง 1 ปี ตลอดจนเรื่องของรสชาติ และความสะอาด ที่ได้รับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมทั้งมาตรฐานด้านสุขอนามัย มาตรฐานจีเอ็มพี
 
หลังจากนั้นได้ลงทุนสร้างฟาร์มในการผลิตวัตถุดิบที่สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ได้แก่ จิ้งหรีด (แมงสะดิ้ง) และดักแด้ เป็นแมลงที่สามารถเลี้ยงในฟาร์มได้ตลอดทั้งปี ต่างจากรถด่วน (หนอนไม้ไผ่) ซึ่งมีขั้นตอนการเลี้ยงมาตั้งแต่เป็นไข่ ถึงช่วงฟัก แล้วนำมาป้อนโรงงานผลิตแมลงอบกรอบที่บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เพื่อรองรับการขยายตัวทั้งไทยและต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายจากในประเทศ 90% และส่งออกไปต่างประเทศ 10% ผ่าน 4 ช่องทางหลัก ได้แก่ คอนวีเนี่ยนสโตร์ ร้านค้าส่ง ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าทั่วไป
 
สำหรับแผนการตลาดต่อจากนี้ จะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกไปยัง CLMV อาทิ ลาว, กัมพูชา, เมียนมา และเวียดนาม ผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อทั่วไป รวมถึงได้ส่งออร์เดอร์แปรรูปวัตถุดิบจิ้งหรีด (แมงสะดิ้ง) ในชนิดผง และแท่ง ส่งออกไปยังประเทศอเมริกา และเยอรมนี เพื่อให้ผู้บริโภคชาวต่างชาตินำไปแปรรูปใช้เป็นส่วนผสมในอาหารต่าง ๆ ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการเสริมสร้างสารอาหารตลอดจนการพัฒนาสินค้าและรสชาติใหม่ ๆ อย่างเช่น ไฮโซกู๊ด (ดักแด้อบกรอบเคลือบงา) ควบคู่กับจัดแคมเปญตามจุดขาย และโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ผ่านช่องทางออนไลน์-ออฟไลน์ เพื่อกระตุ้นยอดขายและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ รวมถึงการแตกไลน์สินค้า เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากสารสกัดงาดำ เจาะกลุ่มผู้บริโภควัยทำงาน ซึ่งจะวางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อทั่วไปในต้นปี 2562 นี้
 
นายทัดณัฐระบุต่อไปอีกว่า ภาพรวมของธุรกิจในปีนี้ค่อนข้างชะลอตัว เนื่องจากเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว และผู้บริโภคระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดน้อยลง เพราะรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากนักท่องเที่ยวจีนมากกว่า 30% แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่ากลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย และแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ๆ จะสามารถทำให้บริษัทมียอดขายเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 100 ล้านบาทในปีนี้
 
“โอกาสของธุรกิจแมลงยังมีอีกมาก เพียงแต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ เพราะถ้าคิดที่จะก้าวไปในระดับสากล ต้องพัฒนาเรื่องของระบบมาตรฐานและคุณภาพ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโต”
ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
.
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!