“กระทิงแดง” ลงทุน 2 พันล้าน ยกเครื่องจัดจำหน่ายเดอเบล

“กระทิงแดง” ทุ่ม 2,000 ล้าน ยกเครื่อง “เดอเบล” เสริมแกร่งเทคโนโลยีใหม่ ทีมขาย ศูนย์กระจายสินค้า รับพฤติกรรมผู้บริโภค/ตลาดเปลี่ยน พร้อมรุกจัดจำหน่ายสินค้านอกเครือ-ต่างประเทศ หวังสปีดรายได้ 3 ปี 3 หมื่นล้านขึ้นผู้นำตลาด

นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ TCP ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มกระทิงแดง ระบุว่า เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์ของกลุ่ม TCP ที่มีเป้าหมายผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้น 3 เท่า หรือ 100,000 ล้านบาทภายในปี 2565 ล่าสุดได้ทุ่มงบฯลงทุน 2,000 ล้านบาท ในบริษัท เดอเบล จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าในเครือ เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการ รองรับความต้องการของผู้บริโภคและตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การผลิต การจัดจำหน่าย การขาย และกลยุทธ์ทางการตลาด ตลอดจนคู่ค้าในปัจจุบัน และรายใหม่ที่จะมีเพิ่มขึ้นอย่างครบวงจร

นายสุรชัย จงเลิศวราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอเบล จำกัด กล่าวว่า การลงทุนดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ การลงทุนด้านเทคโนโลยี ทั้งในด้านการขาย ด้านข้อมูลการตลาด ด้านโลจิสติกส์ และคลังสินค้า เพื่อให้การบริการกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร ลดการเสียโอกาสจากการขายสินค้า เพิ่มความรวดเร็วในการนำสินค้าเข้าสู่ร้านค้า รวมถึงนำข้อมูลจากร้านค้ามาช่วยให้เกิดความเข้าใจลูกค้าในแต่ละพื้นที่มากขึ้น เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ทำให้สามารถกำหนดเป้าหมายและวางแผนกลยุทธ์กับคู่ค้าได้ดียิ่งขึ้น การขยายสาขา เพิ่มศูนย์กระจายสินค้าและทีมขายเพื่อรองรับจำนวนคู่ค้าและประเภทสินค้าที่จะหลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมบริหาร และพัฒนาศักยภาพการขายให้กับทีมงาน โดยมีแผนที่จะเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าหลัก 1 แห่ง และสาขาใหม่อีก 5 แห่งในจังหวัดที่มีศักยภาพ พร้อมทีมรถขายอีกกว่า 200 คัน และทีมงานขาย 400 คน เมื่อรวมจำนวนสาขาปัจจุบัน และสาขาใหม่ที่จะเพิ่มขึ้น ทำให้เดอเบลมีสำนักงานขายที่มีศูนย์กระจายสินค้าย่อยในตัวรวมทั้งสิ้น 30 แห่ง ตลอดจนการเปิดช่องทางการขายใหม่ คือ ช่องทางตู้จำหน่ายสินค้าหยอดเหรียญ และช่องทางออนไลน์ รวมถึงการกระจายสินค้าจากต่างประเทศ และสินค้าของคู่ค้าที่มีศักยภาพไปจัดจำหน่ายในตลาดต่างประเทศผ่านเครือข่ายของกลุ่มธุรกิจ TCP

“เทรนด์การตลาดของธุรกิจค้าปลีกแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการขายผ่านออนไลน์ หรือการขายผ่านตู้จำหน่ายสินค้า (vending machine) กำลังเป็นอาวุธใหม่ของธุรกิจค้าปลีกที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง อีกทั้งร้านค้าและลูกค้าของเดอเบลก็เริ่มมีความคุ้นเคยกับช่องทางออนไลน์ เดอเบลจึงมีแผนจัดตั้งทีมที่ดูแลช่องทางออนไลน์ เพื่อเป็นช่องทางการตลาดที่ครบวงจร ขณะเดียวกัน เรามองว่าทุกวันนี้มีคนที่สนใจจะทำธุรกิจค้าปลีกกันมาก แต่มักจะติดข้อจำกัดสำคัญด้านเงินลงทุน ราคาที่ดินที่สูง และการขาดแคลนแรงงานที่จะขายของและเฝ้าร้าน ดังนั้น ตู้จำหน่ายสินค้าจะเข้ามาตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการจะค้าขายดังกล่าว” นายสุรชัยระบุ

บริษัทต้องการยกระดับการให้บริการของเดอเบลสูงขึ้น ซึ่งจะไม่ได้เป็นเพียงผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้น แต่เป็นพันธมิตรที่ให้คำปรึกษาและช่วยตอบโจทย์ทางธุรกิจให้กับคู่ค้าได้อย่างครบวงจร ด้วยการใช้จุดแข็งด้านโลจิสติกส์ที่ทันสมัยกับเครือข่ายสาขาจำนวนมาก ผสานเข้ากับการขยายช่องทางออนไลน์-ออฟไลน์ และเสริมด้วยการนำบิ๊กดาต้าเข้ามาช่วยศึกษาข้อมูลเพื่อตอบสนองความต้องการของคู่ค้าและลูกค้าได้อย่างตรงจุด รวดเร็ว

ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 3 ปีรายได้ของบริษัทจะเติบโตขึ้นเป็น 30,000 ล้านบาท เป็นผู้นำตลาดและมีสัดส่วนสินค้าของคู่ค้านอกกลุ่มธุรกิจ TCP เป็น 60% จากปัจจุบันมีรายได้ 17,000 ล้านบาท มีสัดส่วนสินค้านอกกลุ่มธุรกิจเกือบ 40% อาทิ โอวัลติน แบรนด์เจเล่ เมจิกฟาร์ม เบนโตะ กาแฟเพรียว โกปิโก้ ขนมเบง เบง เครื่องดื่มบริ๊งค์ และวิตอะเดย์ ฯลฯ เป็นต้น