พานาฯท้าชน “ไดสัน” ขนเครื่องใช้ไฟฟ้า “ความงาม” บุกยุโรป

หากพูดถึงสินค้าที่บรรดาแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้านิยมใช้เป็นหัวหอกในการทำตลาดแล้ว ตัวเลือกหลักจะเป็นสินค้าในกลุ่มภาพและเสียงหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน อย่างทีวี แอร์ และเครื่องซักผ้า ซึ่งเป็นสินค้าขนาดใหญ่ มูลค่าสูงและมีนวัตกรรมให้โชว์ และจะช่วยเรียกความสนใจลูกค้าได้ชัดเจน

แต่ล่าสุด “พานาโซนิค” หนึ่งในยักษ์อุตสาหกรรมและเครื่องใช้ไฟฟ้าของญี่ปุ่น ได้ปรับแผนหันไปใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มบิวตี้ เช่น ไดร์เป่าผม และเครื่องนวดศีรษะ มาเป็นสินค้าหลักสำหรับทำตลาดแทนทีวี

สำนักข่าว “นิกเคอิ เอเชียน รีวิว” รายงานว่า “พานาโซนิค” ประกาศปรับแผนการทำตลาดในภูมิภาคยุโรป โดยหันไปใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มบิวตี้เป็นหัวหอกในการทำตลาดแทนทีวีและกลุ่มภาพและเสียง ซึ่งเดิมเป็นสินค้าหลักมานับตั้งแต่การตั้งบริษัทในยุโรปเมื่อ 57 ปีก่อน และมีสัดส่วนถึง 40% ของยอดขายในยุโรปหลังการแข่งขันดุเดือดกับแบรนด์เกาหลี-จีน ทำให้ปี 2561 ยอดขายในยุโรปเหลือเพียง 2 พันล้านยูโร ลดลงจากช่วงสูงสูดในปี 2553 ที่ทำยอดขายได้ถึง 3 พันล้านยูโร เพื่อกู้สถานการณ์ยักษ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจึงหันพึ่งสินค้ากลุ่มบิวตี้ ซึ่งมีผลงานโดดเด่นในตลาดญี่ปุ่นด้วยการครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าความงามของญี่ปุ่น จากสินค้า เช่น ไดร์เป่าผม เครื่องนวดศีรษะ เครื่องอบไอน้ำผิวหน้า ฯลฯ โดยมีนวัตกรรมนาโนอี (nanoe) ที่โฆษณาว่าสามารถให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผมหรือผิวหนังได้เป็นจุดขายหลัก รวมกับระบบเซ็นเซอร์วิเคราะห์คุณภาพผิวและฟังก์ชั่นอื่น ๆ โดยปัจจุบันเครื่องเป่าผมรุ่นนาโนอีมียอดขายรวม 10 ล้านเครื่องทั่วโลกหลังเปิดตัวเมื่อปี 2548

อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ใหม่นี้จะทำให้พานาโซนิคต้องปะทะกับ “ไดสัน” (Dyson) ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติอังกฤษที่มีสินค้าไฮไลต์เป็นเครื่องเป่าผมและจุดขายด้านนวัตกรรมเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงการต่างจากพานาโซนิคที่ถือว่าเป็นหน้าใหม่ในเซ็กเมนต์นี้

“โยสึเกะ มัสสึนากะ” เอ็มดีของพานาโซนิค แอพพลายแอนซ์ ยุโรป ฉายภาพว่า ก่อนที่ไดสันจะเข้ามาทำตลาดนี้ ไม่มีใครขายไดร์เป่าผมราคาเกิน 100 ยูโร แต่ปัจจุบันไดร์เป่าผมของไดสันซึ่งราคาถึง 500 ยูโร สามารถทำยอดขายได้ดีอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของคู่แข่งรายนี้

เพื่อรับมือบริษัทจะระดมไลน์อัพสินค้าที่มีนวัตกรรมนาโนอีลงสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นไดร์เป่าผม เครื่องอบไอน้ำ ลูกกลิ้งสำหรับผิวหน้า รวมถึงเพิ่มช่องทางขายเข้าไปในสเปเชียลิตี้สโตร์ เช่น ร้านบู๊ทส์ (Boots) และเพิ่มทีมขายที่เทรนมาสำหรับสินค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายในตลาดยุโรปอีก 20% ภายในปี 2568

จากนี้เหลือเพียงรอดูกันว่าการปรับกลยุทธ์ของพานาโซนิคจะได้ผลอย่างไร หากไปได้สวยอาจมีโอกาสได้เห็นทัพสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อความงามตามออกมาอีกจำนวนมาก