ธุรกิจปรับโมเดลรับรีสตาร์ต ลั่นพร้อมเปิดทันทีที่รัฐบาลปลดล็อกดาวน์

Photo by Romeo GACAD / AFP

ธุรกิจรอความหวัง ครม.ยังไม่เคาะแผนรีสตาร์ตธุรกิจ นายกฯจ่อแถลงคลายล็อกสัปดาห์นี้ ด้านศูนย์การค้า-ร้านอาหาร-คลินิกความงาม พร้อมเปิดทันทีที่ทางการประกาศ ผู้ว่าฯ กทม. ชงคลายล็อกเปิด 8 ประเภท”เซ็นทรัล” พร้อมเต็มร้อย ร้านอาหาร พลิกโมเดลธุรกิจลดจำนวนที่นั่งลง 50% เข้ม social distancing คลินิกความงามมุ่งจำกัดจำนวนคนในร้าน งัดระบบจองคิว เลี่ยงการนั่งรวมกันเป็นกลุ่ม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมาว่า การผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ นั้น รัฐบาลจำเป็นต้องต่ออายุ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป รวมถึงมาตรการเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ซึ่งหลายข้อกำหนดยังคงสภาพเดิมอยู่ ในเรื่องการเคลื่อนย้าย ควบคุม การแพร่ระบาดโควิด-19 อีกส่วนหนึ่งเป็นมาตรการผ่อนคลาย ปลดล็อกกิจกรรมต่าง ๆ ขณะนี้มีคณะกรรมการศึกษาทำรายละเอียดว่ากิจการใดจะควรผ่อนปรนได้บ้าง ในระยะต่อไป ขอให้รอฟังการแถลงข่าวโดยคณะกรรมการที่มีส่วนร่วมหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ธุรกิจ และกระทรวงมหาดไทย

พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า รายละเอียดต่าง ๆ ต้องรอฟังการแถลงข่าวอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ว่าจะมีผลอะไรออกมาบ้าง แต่หลักการพิจารณาของคณะกรรมการที่ตนมอบหมายไป ต้องเอากิจกรรมทั้งหมดที่อยู่ใน กทม.และต่างจังหวัดมาพิจารณาว่าใน 100% มีอะไรอยู่บ้าง ซึ่งใน 100% จะมีการแบ่งเป็น 4 ระยะ ในแต่ละช่วงจะมีการเว้น 14 วัน เพื่อให้มีการประเมิน ว่าหลังจากผ่อนปรนไปแล้วจะมีการแพร่ระบาดหรือไม่ จำเป็นต้องกลับมาปิดอีกหรือไม่ ทั้งนี้ จะมีการประกาศเมื่อถึงเวลา ว่าอะไรจะผ่อนคลายในระยะที่ 1 ได้บ้าง โดยพิจารณากิจกรรมที่มีความจำเป็นและมีความเสี่ยงน้อยก่อน และจะมีมาตรการคู่มือ ตรวจสอบการประเมินผล รวมถึงมีมาตรการสาธารณสุข

“สถานประกอบการต้องเตรียมการของตนเองให้พร้อม ทุกท่านจะเพิ่มเติมมาตรการได้ เพื่อให้พื้นที่ที่ประกอบกิจการปราศจากโควิด-19 รายละเอียดจะแจ้งเร็ว ๆ นี้ วันนี้ขอให้อย่าเพิ่งเรียกร้องมากนักเลย ขณะนี้พิจารณาเรื่องแนวนโยบาย ส่วนแนวปฏิบัติต้องฟังจากท้องที่ คือกระทรวงมหาดไทย ซึ่งใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด แต่ต้องระวังการแพร่ระบาด ไม่เช่นนั้นทุกสิ่งที่ปฏิบัติมาจะเสียเปล่าโดยสิ้นเชิง”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนวันหยุดราชการในเดือน พ.ค.นั้น ครม.ให้หยุดตามปกติ วันหยุดของรัฐวิสาหกิจหรือวันแรงงาน ก็ว่ากันตามเดิม แต่ต้องมีมาตรการป้องกัน social distancing ต้องเข้มงวด ต้องดูแลให้ดีที่สุด ขณะเดียวกันมาตรการห้ามเข้าออกประเทศทั้งบก น้ำ อากาศ ยังเป็นไปตามเดิม การงด หรือ ชะลอการเข้าพื้นที่ยังคงอยู่ รวมถึงระยะเวลาการเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น.

Advertisment

ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่ได้สรุป เพราะยังต้องหารือว่าประเภทใดเปิดกิจการได้บ้าง ซึ่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ (ศบค.) จะได้แถลงต่อไป สำหรับการปฏิบัติในห้วงต่อไปภายหลังการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการให้ ศบค.เป็นกลไกหลักในการกำหนดกรอบแนวทางการบังคับใช้อำนาจตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และให้ศูนย์ปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โรคโควิด-19 ในด้านต่าง ๆ กรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด กำหนดรายละเอียดในการปฏิบัติงานตามประเภทของภารกิจและความรับผิดชอบของตนในพื้นที่

กทม.ปลดล็อก 8 สถานที่

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหาคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.เตรียมเสนอต่อคณะกรรมโรคติดต่อพิจารณาในวันที่ 29 เม.ย. 2563 ให้เปิดบริการ 8 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย 1.ร้านอาหารทั่วไปแบบที่สามารถนั่งที่ร้านได้ แต่ต้องจัดที่นั่งห่างกัน1.5-2 เมตร ยกเว้นร้านอาหารที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าจะให้ซื้อกลับบ้าน และไม่อนุญาตให้จำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงต้องปิดร้านตามเวลาเคอร์ฟิวช่วง 22.00-04.00 น.

2.ตลาดและตลาดนัด โดยให้ขายสินค้าได้ทุกประเภท 3.สนามกีฬา สถานที่ออกกำลังกาย รวมถึงศูนย์กีฬาและศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร จะเปิดบริการให้เข้าไปออกกำลังกาย แต่ต้องเป็นกีฬาที่มีระยะห่างกัน ไม่ใกล้ชิด อาทิ แบดมินตัน เทนนิส เทเบิลเทนนิส ยิงปืน เป็นต้น 4.สวนสาธารณะ ให้ใช้ออกกำลังกาย พักผ่อนได้ แต่ห้ามรวมกลุ่มสังสรรค์ หรือนั่งรับประทานอาหาร และต้องเว้นระยะห่างกัน

5.ร้านตัดผม-ร้านเสริมสวย อนุญาตให้บริการได้เฉพาะ “ตัด สระ ไดร์” เท่านั้น โดยให้เปิดเป็นรอบ ๆ เพื่อให้มีการหยุดทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุก ๆ 2 ชม. โดยให้ลูกค้า โทร.จองคิว ไม่อนุญาตให้นั่งรอ และช่างทำผมต้องใส่หน้ากากและหน้ากากป้องกัน (face shield) ด้วย 6.ร้านตัดขนสัตว์ และคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ นำสัตว์เข้าร้านได้ 1 คนต่อ 1 ตัวเท่านั้น และหยุดทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุก ๆ 2 ชม. 7.โรงพยาบาล คลินิก และสถานพยาบาล ยกเว้นคลินิกลดน้ำหนักและเสริมความงาม และ 8.สนามกอล์ฟ

Advertisment

สำหรับ 8 สถานที่ดังกล่าวที่เตรียมเสนอให้อนุญาตเปิดได้จะต้องทำตามมาตรการที่กรุงเทพมหานครกำหนดอย่างเคร่งครัด

ตีกลับแผนรีสตาร์ต

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะคณะทำงานกลุ่มมาตรการสำหรับการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้นโยบายรัฐบาลต้องการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่ในทุกพื้นที่ จึงยกเลิกระบบโซนแล้ว โดยจะเน้นเปิดตามกลุ่มกิจกรรม เริ่มจากการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากก่อน เพื่อให้ผู้ประกอบการรายเล็ก หาบเร่แผงลอย ร้านอาหารสตรีตฟู้ดต่าง ๆ รวมถึงตลาดนัดสามารถกลับมาทำธุรกิจได้ก่อน แน่นอนว่าหากภาคธุรกิจสามารถกลับมาประกอบธุรกิจได้ตามแผนก็จะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ

“ส่วนกำหนดการว่าจะสามารถกลับมาเปิดในวันที่ 4 พฤษภาคม ตามที่เราเสนอไปหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจจะเร็วกว่านั้นก็เป็นได้ โดยหลังจากประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อาจจะมีความคืบหน้า ซึ่งในส่วนของผมได้รับมอบหมายให้ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนจะดำเนินการแถลงข่าวในวันที่ 30 เมษายนนี้”

ด้านนายสุรงค์ บูลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยได้หารือกับสมาชิก ผู้ประกอบการค้าปลีก เห็นว่าควรผ่อนคลายให้ธุรกิจค้าปลีกเปิดให้บริการได้ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปโภค บริโภค อุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นโดยรวม และทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ หากเปิดให้บริการ 3 พฤษภาคม 2563 นี้ ก็พร้อมจะดำเนินการทันที และหากเกิดการแพร่เชื้อเอกชนก็พร้อมให้ความร่วมมือในการปิดการให้บริการ

ศูนย์การค้าพร้อมเปิด

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้ารายใหญ่ เปิดเผยว่า ซีพีเอ็นพร้อมจะเปิดให้บริการได้ทันทีเมื่อมีการประกาศจากภาครัฐ โดยการเปิดจะเน้นให้ความสำคัญกับเรื่องของความสะอาดต่าง ๆ อาทิ การคัดกรองอย่างเข้มงวด, social distancing จำกัดจำนวนคนเข้าศูนย์การค้าไม่เกิน 1 คนต่อ 5 ตร.ม., การติดตามเพื่อความปลอดภัย ใส่ใจความสะอาดทุกจุดสัมผัส และลดการสัมผัส เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่จะเข้าใช้บริการที่ศูนย์การค้า นอกจากนี้ยังมีมาตรการการติดตามเพื่อความปลอดภัย (safety tracking) ที่จะมีการ tracking ข้อมูล สุขภาพ และการเดินทางของพนักงานในศูนย์ และร้านค้าย้อนหลัง 14 วัน และมีแบบฟอร์มให้กรอกก่อนเปิดศูนย์และทุกวันก่อนเริ่มงาน

สำหรับอาหารซื้อกลับบ้าน ทุกกล่องต้องระบุข้อมูลชื่อร้าน สาขา และเวลา พร้อมชื่อและอุณหภูมิของผู้ประกอบอาหารติดบนกล่องอาหาร ส่วนมาตรการความสะอาดนอกจากเรื่องของเจลล้างมือ สเปรย์ฆ่าเชื้อ ฯลฯ รวมทั้งได้ติดตั้งพรมเช็ดเท้าฆ่าเชื้อโรคบริเวณทางเข้า เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจอีกระดับหนึ่ง และทุก ๆ จุดของพื้นที่ศูนย์การค้าจะมีป้ายเตือนเป็นระยะในการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยเป็นระยะ ๆ

ร้านอาหารเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้บริหารร้านเซ็น, อากะ, มูฉะ, ออนเดอะเทเบิล, เขียง, ตำมั่ว, ลาวญวน ฯลฯ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทพร้อมที่จะเปิดให้บริการแล้ว ที่ผ่านมาบริษัทได้วางแผนรองรับการเปิดให้บริการร้านอาหารเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะมาตรการเรื่องความปลอดภัยทั้งพนักงานและลูกค้า การที่จะต้องเว้นระยะห่าง 1 เมตร ทั้งช่วงของการสั่งอาหาร การชำระเงิน รวมถึงกรณีที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการแบบซื้ออาหารกลับบ้าน ตลอดจนพนักงานส่งอาหารที่จะต้องมีเรื่องของความสะอาดและข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย ผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ธุรกิจร้านอาหารต้องปรับโมเดลธุรกิจใหม่ สำหรับร้านอาหารทั้ง 15 แบรนด์ใหม่ของบริษัทก็มีการทยอยปรับตัว เช่น ในเรื่องของที่นั่งทานในร้าน ต้องเว้นที่นั่งสลับกัน และมีฉากกั้น ซึ่งเป็นการนำโมเดลจากประเทศจีนมาใช้ และสิ่งสำคัญของร้านอาหารที่จะกลับมาเปิดให้บริการ จะต้องเป็นเมนูปรุงสุกและเป็นเซตอาหารพร้อมทานสำหรับทานคนเดียว

“ตอนนี้แม้ร้านอาหารจะกลับมาเปิดร้านอาหารได้ แต่พื้นที่ขายแต่ละร้านจะหายไปกว่า 50% ดังนั้นจึงต้องหันไปให้ความสำคัญกับการช่องทางขายดีลิเวอรี่ ทั้งในรูปแบบผ่านแพลตฟอร์มตัวเอง และจับมือกับพาร์ตเนอร์ อาทิ แกร็บฟู้ด ไลน์แมน ฟู้ดแพนด้า เพื่อสร้างรายได้ในช่วงนี้” นายบุญยงกล่าว

คลินิกความงามใช้ระบบจองคิว

นางสาวมนต์นภา ฉายาวิจิตรศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวติเพล็กซ์ จำกัด หรือผู้บริหารเมโกะ คลินิก กล่าวในเรื่องนี้ว่า เมโกะคลินิกทุ่มงบฯ 10% ของยอดขาย เพิ่มมาตรการความปลอดภัยและความสะอาด และพร้อมจะเปิดบริการเมื่อทางการประกาศ สาขาของเมโกะส่วนใหญ่อยู่พื้นที่ห้างสรรพสินค้า สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือ จำกัดจำนวนคนในร้าน ให้ลูกค้าโทรจองคิว/โทรแจ้งคิว เพื่อเลี่ยงการนั่งรอ ทำให้มีคนจำนวนมาก รวมถึงจัดหาทีมผู้เชี่ยวชาญสอบประวัติลูกค้าผ่านช่องทางไลน์แอดเมโกะคลินิก ส่วนผู้ใช้บริการที่มาโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า จะมีพื้นที่รองรับ โดยคลินิกเสริมความงามและร้านเสริมสวยที่อยู่ในละแวกเดียวกัน ได้ส่งเรื่องแจ้งไปยังห้างสรรพสินค้า ขอใช้พื้นที่หน้าร้านคัดกรองลูกค้า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19