คอลัมน์ BIZ ว้าววว
ด้วยจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ จากความตั้งใจที่จะผลิตเครื่องสำอางที่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายของตัวเอง ก่อนจะขยายสู่การต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากสารสกัดธรรมชาติ หวังส่งต่อผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยให้แก่ผู้บริโภคคนอื่น ๆ
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
วิลาสินี โฆษิตชัยวัฒน์ ประธาน บริษัท โป๋วเอวี๋ยน จำกัด ผู้ผลิตเครื่องสำอางสารสกัดธรรมชาติ ภายใต้แบรนด์ วาวด้า (VOWDA) เล่าให้ ประชาชาติธุรกิจ ฟังว่า จุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง มาจากการลองคิดค้นสูตรเครื่องสำอางเพื่อตัวเอง ซึ่งตั้งใจจะใช้สารสกัดจากธรรมชาติทั้งหมด เนื่องจากเป็นคนผิวแพ้ง่าย โดยได้นำความรู้จากการเรียนจบสาขาวิศวกรรมเคมี และประสบการณ์จากการทำงานที่โรงงานผลิตเครื่องสำอางมาผสมผสานเข้าด้วยกัน จนได้เป็นผลงานวิจัยที่เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย
หลังจากนั้นได้นำผลวิจัยที่ได้จากสารสกัดธรรมชาติต่าง ๆ ทั้งเม็ดบัว ข้าว มาจับคู่ธุรกิจ โดยได้ทุนสนับสนุนส่วนหนึ่งจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พร้อมกับเริ่มสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง วาวด้า (VOWDA) ขึ้นในปี 2555 ชูจุดแข็งของการเป็นเครื่องสำอางจากสารสกัดธรรมชาติ
วิลาสินี บอกว่า การทำตลาดช่วงเริ่มต้นไม่ได้เข้มข้นนัก โดยโฟกัสที่การพัฒนาสินค้าเป็นหลัก ส่วนช่องทางจำหน่ายก็เน้นส่งออกในลักษณะของการกระจายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย เนื่องจากผู้บริโภคต่างประเทศรู้จักแบรนด์ วาวด้า ในฐานะผู้เข้าประกวดผลงานวิจัยด้านนวัตกรรมจากเวทีประกวดในต่างประเทศ ปัจจุบันมีตัวแทนนำสินค้าไปจำหน่ายในประเทศแถบยุโรป เช่น โปแลนด์ รัสเซีย เป็นต้น
“ส่วนกลุ่มประเทศอาเซียน บริษัทได้เข้าไปเปิดตลาดเอง ปัจจุบันเปิดเคาน์เตอร์ในโซนเครื่องสำอางที่ศูนย์การค้าเวียงจันทน์ เซ็นเตอร์ ที่ลาว ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี เนื่องจากลูกค้าลาวมีทัศนคติที่ดีต่อสินค้าไทยอยู่แล้ว”
ขณะเดียวกัน เป้าหมายธุรกิจจากนี้จะกลับรุกตลาดเครื่องสำอางในไทยมากขึ้น เนื่องจากตลาดเครื่องสำอางกลุ่มสารสกัดธรรมชาติมีคู่แข่งน้อยราย และคนไทยก็ให้การสนับสนุนสินค้าไทยมากขึ้น เชื่อว่าด้วยจุดแข็งของสินค้าที่มี คือการต่อยอดสินค้ามาจากงานวิจัย และมีรางวัลการันตีจากสถาบันวิจัยต่าง ๆ เช่น รางวัลรองชนะเลิศนวัตกรรมแห่งชาติ ปี 2559 จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จากผลิตภัณฑ์ แป้งอัดแข็งจากกะลามะพร้าว เป็นต้น จะทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในตลาดไทยได้เช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศ
วิลาสินี บอกว่า ล่าสุดร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลขยายช่องทางจำหน่าย คาดว่าจะเปิดช็อป 3-5 สาขาเร็ว ๆ นี้ โดยเตรียมจะเปิดช็อปแรกที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ปลายปีนี้ ซึ่งภายในช็อปจะประกอบด้วย พื้นที่จำหน่ายสินค้า ห้องนวด ดูแลผิวหน้า หวังสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้า จากปัจจุบันที่ขายผ่านช่องทางออนไลน์ เลมอนฟาร์ม เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในโรบินสัน ศรีสมาน และเมกา บางนา เท่านั้น
ในส่วนของผลิตภัณฑ์นั้นจะเดินหน้าวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสินค้า 20 รายการ เช่น แป้งอัดแข็ง ลิปสติก บลัชออน สเปรย์ฉีดหน้า เป็นต้น และเพิ่มกิมมิกให้แก่สินค้าด้วยการนำชื่อตัวละครในวรรณคดีมาเป็นชื่อสีลิปสติก สร้างการจดจำให้แก่สินค้า ยกตัวอย่าง ลิปสติกข้าว สีนางในวรรณคดี มีให้เลือก 4 สี เช่น จินตะหราวาตี (สีแดง) บุษบา (สีส้ม) เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม คาดว่าด้วยแนวทางที่วางไว้จะทำให้แบรนด์ วาวด้า กลายเป็นที่รู้จักในตลาดไทย ในฐานะเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ของไทยที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับเครื่องสำอางจากอินเตอร์แบรนด์ให้ไดhสำหรับตลาดต่างประเทศนั้น วิลาสินี บอกว่า จะโฟกัสที่การขยายตลาดอาเซียนเพิ่มขึ้น คาดว่าปี 2561 จะขยายสาขาเพิ่มที่ลาวอีก 2 แห่ง ได้แก่ สะหวันนะเขต ปากเซ ส่วนตลาดยุโรปนั้นอาจจะหยุดไว้ก่อนเนื่องจากไม่มีความเชี่ยวชาญในตลาดนี้
ทั้งหมดกลายเป็นจุดเริ่มต้น ๆ เล็กของเครื่องสำอางแบรนด์ไทย ที่กำลังจะสร้างปรากฏการณ์เครื่องสำอางจากวัตถุดิบธรรมชาติให้เติบโตและสู้กับเครื่องสำอางอินเตอร์แบรนด์ได้ ด้วยคุณภาพที่ดีและราคาที่ผู้บริโภคไทยจับต้องได้
