มิตซูบิชิกันยงฯทุ่ม 1.1 พันล้านปลุกยอดขายปี’65 โต 20% เดินหน้าโปรโมตทัพสินค้าใหม่ผ่านออนไลน์-หน้าร้าน เสริมด้วยบริการหลังการขายซ่อมด่วน 24 ชั่วโมง ทั้งแอร์ ตู้เย็น พัดลม ปั๊มน้ำ ฯลฯ ใน กทม.-ปริมณฑล พร้อมแผนระยะกลางผุดสำนักงานสนับสนุนลูกค้า อีก 2 สาขา เจาะลูกค้าองค์กร
นายชินจิ คามิยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัดกล่าวถึงทิศทางของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและของบริษัท ว่า จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19สายพันธุ์โอมิครอน
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
ทำให้เชื่อว่า ดีมานด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเชิงพาณิชย์จะกลับมาใกล้เคียงกับปี 2562 ได้อีกครั้งในช่วงหลังปี 2566
ดังนั้น เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโต 20% ตามเป้าสำหรับปีงบประมาณ 2565 นี้ (เมษายน 2565-มีนาคม 2566) จะทุ่มงบฯส่งเสริมการขายประมาณ 1.1 พันล้านบาท
พร้อมมุ่งเน้นสินค้าและบริการที่เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องฟอกอากาศ แอร์บ้าน-พาณิชย์ ตู้เย็น พัดลม พัดลมระบายอากาศ พร้อมยกระดับด้านการขนส่ง โลจิสติกส์และงานบริการหลังการขายให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
มีไฮไลต์เป็นการขยายขอบเขตบริการ “Express Team Service” หรือบริการซ่อมแอร์ด่วนภายใน 24 ชม. ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งปีนี้ขยายบริการให้ครอบคลุมเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ อาทิ ตู้เย็น พัดลม ปั๊มน้ำและอื่น ๆ ด้วย
ส่วนสินค้าได้เปิดตัวรุ่นใหม่ในหลายหมวด ไม่ว่าจะเป็นแอร์มิสเตอร์สลิม 3D Move-eye Kiwami AW Series ซึ่งทำความเย็นได้เร็วยิ่งขึ้น พัดลมขนาด 12-18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ ตู้เย็น 2 ประตู รุ่น FS45 และ FC38
ที่เพิ่มความจุแต่ใช้พื้นที่ติดตั้งน้อยลง ตามด้วยเครื่องฟอกอากาศ 2 รุ่น สามารถดักจับฝุ่นขนาด 0.1 ไมครอน ได้ 99.97% และมีระบบทำความสะอาดแผ่นกรองอัตโนมัติ
ส่วนแอร์เชิงพาณิชย์จะมีมิสเตอร์สลิม Standard Inverter M-Series เน้นประหยัดพลังงานและสามารถติดอุปกรณ์กรองอากาศเสริมได้
ในขณะที่การสื่อสารจะเน้นให้ผู้บริโภครับรู้และเข้าใจจุดเด่นของสินค้าได้ง่าย ผ่านทั้งออนไลน์และการจัดแสดงสินค้าหน้าร้าน พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่
ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมที่ทำให้สัมผัสถึงพื้นที่ปรับอากาศที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นและประหยัดพลังงาน” เริ่มออกอากาศกลางเดือนกุมภาพันธ์ รวมทั้งใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งเข้าเป็นผู้สนับสนุนสโมสรฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5
ส่วนกลุ่มลูกค้าองค์กรจะโปรโมตแอร์เชิงพาณิชย์รุ่นใหม่ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและร้านค้าในต่างจังหวัด ตามกระแสความต้องการด้านสาธารณูปโภคที่กำลังเติบโต
ก่อนจะตามด้วยแผนระยะกลางและระยะยาวที่เน้นกลุ่มลูกค้าองค์กร หรือ B2B ด้วยการขยายศูนย์บริการสาขา “สำนักงานสนับสนุนลูกค้าโครงการระบบปรับอากาศซิตี้มัลติ” ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จากปัจจุบันมี 6 สาขา พร้อมเปิดตัวแอร์และอุปกรณ์เสริมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจภายใต้แผนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศของภาครัฐ
ตามเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายในกลุ่ม B2B ให้เป็น 30% ของยอดขายรวมของบริษัท และมีสำนักงานสนับสนุนลูกค้าฯ เป็น 8 สาขา ในปีงบประมาณ 2568 หลังเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 บริษัทสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ในเขตภาคอีสานที่จังหวัดขอนแก่น
ทำให้ส่งมอบสินค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และลงทุนกว่า 60 ล้านบาท นำระบบ “online service system” เข้ามาใช้ย่นระยะเวลาและตอบสนองต่อการแจ้งซ่อม
จากการลงทุนและอัพเกรดระบบต่าง ๆ นี้มั่นใจว่ายอดขายปีงบฯ 2564 (สิ้นสุดมีนาคม 2565) จะอยู่หดตัวเพียง 5% ซึ่งดีกว่าตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หดตัวถึง 7% และยังสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งในตลาดแอร์ไว้ได้ ก่อนที่ปีงบฯ 2565 จะเติบโต 20% ตามที่ตั้งเป้าไว้