รถยนต์หรูที่มองดู “หน้าเป็นห่วง” (มี 4 ห่วง) แบบนี้ไม่น่าเชื่อครับ ใช้เวลาแค่ปีเศษ ๆ สามารถสร้างแรงกระเพื่อมให้กับคู่แข่งในตลาดได้มากโขทีเดียว
วันก่อน “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสจับเข่าคุยกับซีอีโอแบรนด์ออดี้ “กฤษณะกร เศวตนันทน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์เตอร์ เทคนิค จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์อาวดี้อย่างเป็นทางการในประเทศไทย
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
คำถามแรกที่อยากได้ยินจากปาก คือ 22 เดือนหลังเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมปี 2560 เขาพึงพอใจกับการทำงานของทีมงานและตัวเองมากน้อยแค่ไหนได้คำตอบว่า เซอร์ไพรส์มาก ๆ สามารถลบภาพเก่า ๆ ที่ลูกค้าเคยบ่น
โดยวันนี้ออดี้กลายเป็นแบรนด์รถยนต์พรีเมี่ยมสัญชาติเยอรมันที่น่าจับตามากที่สุด โดยเฉพาะการเติบโตในประเทศไทย พร้อมทั้งเป้าหมายเมื่อยอดขายแตะระดับ 3,000-5,000 คันเมื่อไหร่ คงได้เห็นการขยายสู่การตั้งโรงงานประกอบในประเทศไทยอย่างแน่นอน
2 ปีทะลุพันคัน
ผลประกอบการ 2 ปีที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก เราแฮปปี้กับผลการดำเนินงานในทุกด้าน ปีแรกที่มียอดจำหน่ายเพียง 610 คันมาปีที่สองทะลุ 1,000 คัน และยังมีแนวโน้มที่จะสูงเพิ่มขึ้นอีกจากเปิดสำนักงานใหญ่ และการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการไปในต่างจังหวัด
ปี 2561 เราเปิดที่พัทยา ปี 2562 มีแผนที่จะเปิดที่ภูเก็ตและภาคอีสาน เชื่อว่าจะช่วยกันผลักดันยอดขายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
อีกเรื่องที่แฮปปี้มาก ๆ คือ การได้รับสนับสนุนจากบริษัทแม่ออดี้เอจี โดยบริษัท อาวดี้ ประเทศไทย ไม่เพียงอยู่ในท็อปลิสต์ของประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดเท่านั้น
บริษัทแม่ยังสนับสนุนเราในทุกเรื่องเพื่อยกระดับคุณภาพมาตรฐานในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรุ่นรถ ราคา การพัฒนาศูนย์บริการและผู้จำหน่าย
การยกระดับทีมช่างด้วยการส่งทีมมาโค้ชชิ่งฝึกอบรมให้ช่างเทคนิค การสนับสนุนการสร้างแบรนด์ ทำให้เราสามารถทำตามแผนและคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับลูกค้าทุกเรื่อง โดยเฉพาะการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการ และการยกระดับงานบริการหลังการขายให้ครบวงจร
ชูลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
ความสำเร็จของออดี้มาจากนโยบายที่ชัดเจน และการเดินตามแนวกลยุทธ์ที่วางไว้ ซึ่งภายใต้นโยบายการดำเนินธุรกิจที่ยึดความพึงพอใจของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง หรือ customer centric
อันนี้คุณกฤษฎา ล่ำซำ ได้ย้ำมาตลอด ทำให้เรามีความชัดเจนในการที่จะผลักดันทั้ง 4 กลยุทธ์หลัก เพื่อให้ลูกค้ามีความพึงพอใจมากขึ้น ทั้งในเรื่องคุณภาพผลิตภัณฑ์ ที่เราเน้นเรื่อง product variety และ product offensive โดยจากการทำงานร่วมกับออดี้เอจีอย่างใกล้ชิด
เราสามารถนำรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวในยุโรปมาเปิดตัวในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว เรามีการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการ โดยแต่ละแห่งมีความทันสมัยเป็นไปตามมาตรฐานและเอกลักษณ์ของแบรนด์
การเพิ่มประสิทธิภาพและความครบวงจรให้ส่วนงานบริการหลังการขายด้วยเทคโนโลยี และเครื่องมือที่ทันสมัยและทีมช่างที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ และการพัฒนาคนให้มีความรู้ความสามารถพร้อมรองรับการเติบโตในระยะยาว
นอกจากนี้ยังเป็นผลมาจากการนำการตลาดเชิงรุก เน้นความต่อเนื่อง และสร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่น แตกต่างอย่างชัดเจน ที่ให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่า และความพิเศษเมื่อเลือกแบรนด์ออดี้
ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
หลายคนถามว่า ทำไมลูกค้าจึงตอบรับแบรนด์ออดี้มากขึ้น เหตุผลหลักน่าจะมาจากความเข้มแข็งและชื่อเสียงของแบรนด์ในระดับโลกที่ประสบความสำเร็จ
เรายังมีกิจกรรมทางการตลาดทุกเดือน ไม่ว่าจะเป็นการจัดให้มีการทดสอบรถทุกรุ่น เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ในการขับขี่ด้วยตนเอง รวมถึงข้อเสนอพิเศษ ราคาคุ้มค่า สมเหตุสมผล
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความสำเร็จมากที่สุด การลงทุนเรื่องการบริการหลังการขาย การตลาด และการโฆษณาประชาสัมพันธ์
บุกเทรนด์เอสยูวี & อีวี
สำหรับรถรุ่นไหนเป็นแฟลกชิปที่จะสร้างชื่อให้ออดี้ และมีแผนจะนำรุ่นไหนมาเพิ่มในปี 2562 บ้างนั้น เป็นที่น่าดีใจที่ทุกรุ่นที่เรานำเข้ามา ขายได้ทุกรุ่น
แต่รุ่นที่ครองใจลูกค้ามากที่สุด และเป็นไอคอนของอาวดี้ คือ ออดี้ ทีที, ออดี้ คิว7 พรีเมี่ยมเอสยูวี และออดี้ เอ4 Avant ออดี้ยังคงกลยุทธ์ product variety เพื่อนำยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีการเปิดตัวในยุโรปเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเร็วที่สุด เท่าที่ทราบออดี้เอจีมีแผนเปิดตัวรุ่นใหม่มากกว่า 20 รุ่น ในปี 2562
เน้นสร้างความเชื่อมั่นลูกค้า
จากการลงทุนกว่าพันล้านบาท สร้างสำนักงานใหญ่ภายใต้เทอร์มินอลคอนเซ็ปต์ ที่มีความทันสมัย และมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยมีพื้นที่เกือบ 13,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในย่านที่เรียกว่าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ บริเวณเลียบด่วน-รามอินทรา ซึ่งเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561
สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการทำแบรนด์ออดี้ที่เชื่อว่าจะทำให้ลูกค้าเห็นความตั้งใจจริงของเรา ว่าไม่ได้มาเล่น ๆ
โหมปั้นคนรองรับการเติบโต
นอกจากยอดขายที่ขยายตัวมากขึ้น เรายังเตรียมเรื่องการพัฒนาคนซึ่งเป็นหัวใจหลักของเรา ซึ่งเรามีการพัฒนาทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ จากวันก่อตั้งที่มีทีมงานไม่ถึง 10 คน ปัจจุบันเรามีบุคลากรทั้งฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด ฝ่ายบริการหลังการขาย ทีมช่างเทคนิค และส่วนสนับสนุนต่าง ๆ ทั้งในส่วนของสำนักงานใหญ่และดีลเลอร์รวมกว่า 200 คน เรามีการทำงานร่วมกับออดี้เอจีอย่างใกล้ชิดในการจัดโปรแกรมฝึกอบรมทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงส่งทีมไปเข้าทดสอบฝีมือและความเชี่ยวชาญในระดับมาสเตอร์เทคนิเชียน นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาคนเพื่อเตรียมพร้อมรองรับยนตรกรรมไฟฟ้าในอนาคต ออดี้ อี-ตรอน โดยคาดว่าภายในปี 2562 ออดี้มีแผนจะนำยนตรกรรมไฟฟ้ามาให้คนไทยได้ยลโฉม