โควิดทุบขายรถในประเทศเหลือราว ๆ 7 แสนคัน

วันก่อนเห็นสภาอุตฯออกมาแถลงข่าวว่า ยอดขายรถในประเทศเริ่มดีขึ้น แถมตลาดส่งออกก็สดใสจนต้องปรับประมาณการ

โดยจะเพิ่มตัวเลขการส่งออกอีกราว 1 แสนคัน

ยังไม่พ้นสัปดาห์ไวรัสโควิดลามเข้าโรงงานชิ้นส่วนยานยนต์ซะแล้ว ส่งผลให้ผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ต้องปิดโรงงานเพราะเกิดปัญหาซัพพลายสะดุด

ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าไวรัสสายพันธุ์เดลต้าได้กลายมาเป็นภัยคุกคามหลัก

นักวิเคราะห์หลายสำนักได้ออกมาประมาณการทิศทางอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยปี 2564 กันใหม่ ดังนี้

โดยคาดว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศจะได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนต่อเนื่องจากเดือนกรกฎาคม

จากผลของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักและกำลังซื้อที่ลดลง

ถ้าไม่รุนแรงมากสถานการณ์ที่ทยอยดีขึ้นในไตรมาส 4 บวกกับการเริ่มปรับลดราคารถยนต์ลง และการแข่งขันใช้โปรโมชั่นส่งเสริมการตลาดที่เพิ่มขึ้น

คาดว่าจะทำให้ยอดขายรถยนต์อาจทำได้ถึง 750,000 คัน หรือติดลบราว ๆ 5.3%

ปริมาณการส่งออกปี 2564 มีโอกาสทำได้ถึง 950,000 คัน

ส่วนกรณีเลวร้ายที่การแพร่ระบาดยืดเยื้อ และกว่าไทยและประเทศในอาเซียนจะทำให้ปริมาณผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงไปสู่ระดับเดือนมิถุนายนได้ก็เป็นช่วงปลายปีแล้ว

ทำให้ระบบเศรษฐกิจได้รับผลกระทบในระดับที่มากกว่า ส่งผลต่อยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ลดลงรวมถึงการส่งออก

เมื่อบวกเข้ากับกรณีที่หากเกิดการปิดโรงงานประกอบรถยนต์ในระยะเวลานานกว่ากรณีแรก หรือราว 1 เดือน

โอกาสที่จะมาเร่งผลิตชดเชยในช่วงที่สถานการณ์ดีขึ้นในภายหลังจะทำได้ยากกว่า

ยอดขายรถยนต์อาจทำได้เพียง 720,000 คัน

ปริมาณการส่งออกปี 2564 ไทยมีโอกาสทำได้เพียง 890,000 คัน

ปริมาณการผลิตมีโอกาสทำได้เพียง 1,600,000 คัน

สำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมได้เริ่มมีการปรับตัว

โดยใช้แนวทางการสต๊อกชิ้นส่วนเพิ่มขึ้น

เพื่อให้สายพานการผลิตยังดำเนินต่อได้

ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย