คาราบาวคัพ

คอลัมน์ Market-Think

โดย สรกล อดุลยานนท์

ถ้าใครเป็นแฟนบอลอังกฤษคงไม่พลาด “คาราบาวคัพ”

เพราะถึงรอบที่ทีมชั้นนำในพรีเมียร์ลีกลงสนามแล้ว

ต้องยอมรับว่า “คาราบาวคัพ” หรือ “ลีกคัพ” นั้นเป็นลีกระดับที่ 3 ของบอลอังกฤษ

รองจากพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ

ทีมชั้นนำจากพรีเมียร์ลีกก็ไม่ได้จัดทีมที่ดีที่สุดลง

จนรอบท้าย ๆ ที่หวังถ้วยแล้วค่อยเอานักเตะตัวหลักลงหมด

แต่เชื่อเถอะครับ แฟนบอลทีมไหนก็ยังตามเชียร์ทีมรักของตัวเองเหมือนเดิม

ในมุมการตลาด นี่คือ “ความคุ้มค่า”

ปีนี้ผมดูแค่ 2-3 แมตช์ ก็รู้สึกเลย ว่า “คาราบาวแดง” ลงทุนครั้งนี้คุ้มมาก

ไม่ใช่แค่ป้ายโฆษณาในสนาม

แต่การที่เสื้อของทุกทีมที่ลงสนามต้องมีโลโก้ของ “คาราบาวแดง” ติดอยู่ที่แขนเสื้อ

ตอนแรกไม่เชื่อสายตาตัวเอง

ลำพังแค่ “เชลซี” ก็ไม่แปลกอะไรมากนัก

เพราะ “คาราบาวแดง” เป็นพันธมิตรกับ “เชลซี” อยู่แล้ว

เสื้อทีมที่ใส่ตอนซ้อม จะมีโลโก้คาราบาวแดงโดดเด่นชัดเจน

แต่มีโลโก้ที่แขนเสื้อทีมตอนลงแข่งจริง ชักงง

นึกว่าทำสัญญาเพิ่ม

แต่พอดูแมตช์ต่อมา ทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มี “คาราบาวแดง” ที่แขนเสื้อ

“ลิเวอร์พูล” ก็มี “เลสเตอร์” ก็มี

ตกใจ…

สุดท้ายไปค้นข่าวเก่าตอนที่แถลงข่าวเป็นสปอนเซอร์หลัก “คาราบาวคัพ”

18 ล้านปอนด์ หรือ 800 ล้านบาท แลกกับการใช้ชื่อ “คาราบาวคัพ” 3 ปี

ป้ายโฆษณาในสนาม แบ็กดรอปตอนแถลงข่าว

และ “โลโก้” บนแขนเสื้อฟุตบอลทุกทีมที่ลงแข่ง

มิน่าเล่า…

จ่ายเงินแค่นี้กับการได้มีชื่อสินค้าอยู่บนเสื้อทีมชั้นนำของพรีเมียร์ลีกทั้งหมด

คุ้มมากเลยครับ

เพราะค่าสปอนเซอร์บนแขนเสื้อทีมชั้นนำ ราคาสูงมาก

เชลซี 8 ล้านปอนด์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 7 ล้านปอนด์

ลิเวอร์พูล 5 ล้านปอนด์

แต่ “คาราบาวแดง” อยู่บนเสื้อทุกทีม

ตอนลงแข่ง “คาราบาวคัพ”

เหมือนประกาศว่า…”บาวแดง” รักทุกทีม

เช่นเดียวกับเรื่องการได้จัดกิจกรรมการตลาดในสนามทุกแมตช์ที่มีการแข่งขัน

หมายความว่าสินค้า “คาราบาวแดง”

มีโอกาสให้ลูกค้าทดลองชิมในทุกสนามการแข่งขัน

นี่คือ รายละเอียดที่น่าสนใจมาก

เหมือนกับตอนที่ “เสถียร เศรษฐสิทธิ์”

ประกาศว่า “คาราบาวแดง” จะเป็นพันธมิตรกับทีมเชลซี

โดยจะเป็นสปอนเซอร์ “เสื้อซ้อม” ของทีม 3 ปี ดีลนี้มูลค่า 30 ล้านปอนด์ หรือ 1,620 ล้านบาท ปีละ 10 ล้านปอนด์ หรือ 540 ล้านบาท

ตอนแรกที่อ่านข่าวยังรู้สึกว่า “คุ้มเหรอ”

มีโลโก้สินค้าบนเสื้อนักฟุตบอลและเสื้อวอร์มของทีมเชลซีตอนซ้อม

แต่ไม่ได้อ่านรายละเอียดอื่น ๆ ด้วยว่ามีอะไรอีก

แต่พอทีมเชลซีลงเตะจริง ๆ ไม่รู้ว่าเพราะ “คาราบาวแดง” เป็นสินค้าของคนไทยหรือเปล่า

ทำไมสายตาผมเห็น “คาราบาวแดง” เต็มไปหมด

ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ของนักฟุตบอลอยู่ในสนามเวลานักบอลเจ็บ นักเตะดื่มน้ำขวดน้ำก็มีโลโก้ “คาราบาวแดง”

เป็น “รายละเอียด” ที่นึกไม่ถึงจริง ๆ

แต่ที่รู้สึกคุ้มที่สุดก็คือฤดูกาลที่แล้ว

“เชลซี” ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก

เรียกว่าแทงม้าถูกตัว

ผมคิดว่า “ความสำคัญ” ของการลงทุนใหญ่ด้านการตลาดครั้งนี้ คือ การเปิดเกมรุกแบบร่นระยะเวลา

เป็นสินค้าใหม่จากเอเชียที่ไม่ต้องคลานเข่าเข้าหาดีลเลอร์หรือร้านค้า

แค่เชิญดีลเลอร์และร้านค้าต่าง ๆ

ไปดูบอลนัดชิงชนะเลิศ “ลีกคัพ” ปีที่แล้ว

วันที่มีการเปิดตัว “คาราบาวคัพ”

แค่นั้นก็ชัดแล้วว่า “คาราบาวแดง”

ระดับไหน “อำนาจต่อรอง” ของ

“บาวแดง” สูงขึ้นทันที

ในยุโรป ถ้าเจาะตลาดอังกฤษได้ ประเทศอื่น ๆ ก็ง่ายขึ้น

เกมนี้เคารพหัวใจ “เสถียร” จริง ๆ ครับ

อยู่เมืองไทยก็ขยายธุรกิจ “เหล้าขาว” ชน “เจริญ สิริวัฒนภักดี”

ไปอังกฤษก็ลุยสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งแบบ “ยักษ์ใหญ่” งง

“หัวใจ” ทำด้วยอะไรครับ