สรกล อดุลยานนท์ : ศึกชิง “วัคซีน”

บทความ โดย หนุ่มเมืองจันท์
Market-think
สรกล อดุลยานนท์

นับจากวันนี้เป็นต้นไป ศึกชิง “วัคซีน” จะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

จับตามองให้ดีครับ

เรื่องรณรงค์ให้คนฉีดวัคซีน เพราะมีคนส่วนหนึ่งกลัวผลข้างเคียง หรือต้องการเลือกวัคซีนที่ดีกว่าที่มีอยู่

ผมว่าเรื่องคนไม่อยากฉีด ในช่วงนี้ไม่น่าวิตกอะไรนัก

เพราะมีคนจำนวนมากที่อยากฉีดวัคซีน

การรณรงค์แบบไม่เป็นธรรมชาติกลับส่งผลเสียมากกว่า

เพราะคนจะรู้สึกว่าวัคซีนมีเยอะ ให้รีบไปฉีดกันเถอะ

ทั้งที่ปริมาณวัคซีนยังไม่เพียงพอกับความต้องการของคนอยากฉีด

อย่าลืมว่า เรามี “วัคซีน” ที่อยู่ในมือน้อยมาก

มีแต่ “วัคซีน” ที่รัฐบาลจองไว้และรอการผลิต

ไม่ถึงขั้น “วัคซีนทิพย์”

แต่ของอะไรที่ยังไม่อยู่ในมือ ถือว่ายังไม่ใช่ของเรา

และที่สำคัญเป้าหมายการฉีดวัคซีนทั้งหมดที่รัฐบาลกำหนดมานั้น พึ่งพิงวัคซีน “แอสตร้าเซนเนก้า” จากโรงงานสยามไบโอไซเอนซ์เป็นหลัก

โรงงานนี้เพิ่งผลิตวัคซีนเป็นครั้งแรก

ใครที่ทำโรงงานจะรู้ว่าถ้าติดตั้งเครื่องใหม่ ๆ การผลิตช่วงแรก ๆ ทั้งเครื่องจักรและระบบต่าง ๆ มีโอกาสที่จะยังไม่ลงตัว

อาจต้องรอพักหนึ่งจึงจะได้กำลังการผลิตเท่าที่ต้องการ

นั่นคือ “ความเสี่ยง” ในมุมของวิศวกรโรงงาน

ซึ่งอาจจะไม่จริงก็ได้

เมื่อ “วัคซีน” ในมือยังไม่มี

แต่กำหนดเป้าหมายไปแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขต กทม.ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำหนดเป้าหมายว่าจะฉีดให้ได้ 5 ล้านคนภายในเดือนกรกฎาคม

หรืออีก 2 เดือนนิด ๆ

เป็นเป้าหมายที่ท้าทายมาก

คนเป็น “ผู้นำ” ต้องกล้าปักธงแบบนี้

ชาวบ้านจะได้รู้ชะตากรรมของตัวเอง

วัดกันไปเลยว่ามีฝีมือหรือไม่มีฝีมือ

ประเด็นที่น่าสนใจตอนนี้ก็คือ เมื่อ “วัคซีน” มีความต้องการสูง

ใคร ๆ ก็อยากฉีดวัคซีน

โดยเฉพาะคนทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัด

เพราะถ้าฉีดวัคซีนแล้ว เขาจะทำมาหากินได้อย่างสบายใจมากขึ้น

ดังนั้น กระแสการแย่งชิง “วัคซีน” จึงเกิดขึ้น

กลายเป็นว่าใครมี “วัคซีน” คนนั้นมี “อำนาจ”

ในมุมของนักการเมือง เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่

ถ้าใครช่วยชาวบ้านให้ได้ฉีดวัคซีนก่อน

คนนั้นได้คะแนน

อย่าแปลกใจที่ตอนนี้ทุกพรรค ทุกกระทรวงจะแย่งชิง “วัคซีน” กันอย่างหนัก

แทนที่รัฐบาลจะเป็นหนึ่งเดียว

แต่กลายเป็นว่าทุกกระทรวงพยายามคิดโครงการขึ้นมาเพื่อดึง “วัคซีน” มาอยู่ในโควตาของตัวเอง

ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นก็มาจากสาเหตุนี้เอง

แต่ในมุมของคนทำธุรกิจ ตอนนี้เขาไม่สนใจว่าเกมการเมืองจะเป็นอย่างไร

สนใจอย่างเดียวว่าจะหาทางให้พนักงานของตัวเองได้ฉีดวัคซีนได้เร็วที่สุดอย่างไร

มีน้องคนหนึ่งเป็นเจ้าของโรงแรม

เขาอยากให้พนักงานทุกคนได้ฉีดวัคซีน

เมื่อรอระบบปกติไม่ได้

เขาก็หา “ช่องว่าง” ในช่วงเวลาที่สับสน

รู้ไหมครับว่าเขาทำอย่างไร

ตอนที่เกิดเหตุระบาดตามคลัสเตอร์ต่าง ๆ เช่น คลองเตย ฯลฯ

กทม.จะเปิดจุดฉีดวัคซีนให้กับคนในพื้นที่

แต่ก็มีบางคนได้บัตรคิวแล้วไม่ไป

ปัญหาก็คือ วัคซีนที่เอาออกมาแล้วต้องฉีดให้หมดภายในวันนั้น

เมื่อวัคซีนเหลือ ใครที่ไปต่อคิวรอก็จะได้สิทธินั้นทันที

เจ้าของโรงแรมคนนี้เขาให้พนักงานไปต่อคิวเลยครับ

เพราะตอนนี้มีพนักงานส่วนหนึ่งต้อง work from home อยู่แล้ว

เงินเดือนก็ได้บางส่วน ไม่ได้เต็มเดือน

เขาให้กลุ่มนี้ไปต่อคิวตั้งแต่เช้ามืดเลย

ใครฉีดได้ กลับมาทำงานได้

และได้เงินเดือนเต็ม

เป็นแรงจูงใจในการต่อคิว

ตอนนี้พนักงานของเขาฉีดวัคซีนครบแล้ว

เป็นสงครามแย่งชิงวัคซีนแบบสงคราม “กองโจร” ครับ