ศุภวุฒิ สายเชื้อ ร่วมทีมเศรษฐา คณะกรรมการเศรษฐกิจเพื่อไทย

ศุภวุฒิ สายเชื้อ
ศุภวุฒิ สายเชื้อ

เพื่อไทย ตั้งทีมเศรษฐกิจ มีหมอมิ้ง พรหมินทร์ นั่งประธาน ดึง “ศุภวุฒิ สายเชื้อ” ร่วมนั่งเป็นที่ปรึกษาร่วมกับ เศรษฐา ทวีสิน

วันที่ 3 มีนาคม 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ โดยมีนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช​ เป็นประธาน ส่วนตำแหน่งอื่น ๆ ประกอบด้วย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เป็นรองประธานกรรมการ

สำหรับที่ปรึกษาประกอบด้วย นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบายนายกรัฐมนตรี (นายทักษิณ ชินวัตร, น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ) นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้าไทยในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และที่ปรึกษานายกฯด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศ

ส่วนกรรมการ ประกอบด้วย นสพ.ชัย วัชรงค์ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ นายจักรพงษ์ แสงมณี นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล กรรมการ เลขานุการ และโฆษก นายศิกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

โดยมีอำนาจหน้าที่ระดมความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจ ศึกษาวิเคราะห์ รวบรวมปัญหาด้านเศรษฐกิจของประเทศทั้งปัญหาระดับมหภาค และจุลภาค สรุปและเสนอแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการบริหารพรรค หรือหัวหน้าพรรคเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

พร้อมทั้งนำเสนอและเผยแพร่ข้อมูล และนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรคเพื่อประโยชน์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคและการดำเนินกิจกรรมอื่น ๆ ของพรรค

ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล หรือปรับปรุงแก้ไขข้อเสนอและนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรค ทั้งที่ได้เผยแพร่ต่อประชาชนแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อให้ข้อเสนอและนโยบายดังกล่าวมีความสมบูรณ์และสามารถนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประสานดำเนินงานกับคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่พรรคได้แต่งตั้งเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่งตั้งอนุกรรมการ คณะกรรมการหรือบุคคลใดเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งนี้ได้เท่าที่เห็นว่าจำเป็นแล้วรายงานให้หัวหน้าพรรคทราบ

ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือบุคคลใดที่ได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งนี้ หรือตามคำสั่งของคณะกรรมการให้พรรคสนับสนุนค่าใช้จ่ายเท่าที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสม

พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช

 

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ในฐานะประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศไทยหลังการระบาดของโรคโควิด-19 และภาวะสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ตลอดจนสงครามเศรษฐกิจจีน-สหรัฐอเมริกา ส่งผลทำให้ประชาชนไทยทุกข์ยากต่อเนื่องมากขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา จึงถือเป็นความท้าทายของพรรคการเมืองที่จะนำพาประเทศและประชาชนฝ่าพ้นวิกฤตครั้งนี้ให้จงได้

การต่อสู้ในสงครามเศรษฐกิจในครั้งนี้ ต้อง “เข้าใจปัญหา” เท่าทันสถานการณ์ และภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกมิติ จึงมีความจำเป็นต้องระดมสมอง แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ของด้านเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ เพื่อกำหนดแนวทาง และวิธีการแก้ปัญหาต่อไป จึงได้เชิญบุคคลผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศในด้านต่าง ๆ มาให้คำปรึกษา

ร่วมกับบุคลากรที่หลากหลายและนักการเมืองรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทย เช่น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ​​ส.ส.เชียงใหม่ ที่เป็นผู้อภิปรายรัฐบาลในประเด็นเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนายจักรพงษ์ แสงมณี ​​นักธุรกิจผู้ประกอบการรุ่นใหม่ นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย อดีตผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและผู้​เชี่ยวชาญด้านการค้าการลงทุนชายแดน นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านไอทีและอาชญากรรมทางไซเบอร์​ ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล ​​เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งนายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ ผู้ประกอบการด้านธุรกิจยานยนต์

คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย จะเป็นแกนกลางในการระดมความรู้ ความสามารถ และความร่วมมือในการกอบกู้เศรษฐกิจของเราต่อไป เราจะบริหารให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น

“หากเปรียบการบริหารเศรษฐกิจของประเทศเป็นเหมือนบริหารบริษัท ก็ต้องเป็นบริษัทที่ประชาชนทุกคนเป็นผู้ถือหุ้น ประโยชน์ต้องนำมาแบ่งปันแก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ไม่ใช่บริหารประเทศให้ประโยชน์แก่พี่น้องและพรรคพวกของตน โดยทอดทิ้งประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศไทยให้ฟื้นแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง เพราะเราเคยทำมาแล้ว ตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง อุทกภัยครั้งสำคัญ และมาถึงตอนนี้ซากปรักหักพังที่เกิดขึ้น จะฟื้นกลับมาด้วยฝีมือของพรรคเพื่อไทย”

เศรษฐา ทวีสิน

 

นอกจากคณะกรรมการชุดนี้ พรรคเพื่อไทยยังมีชุดทำงานด้านอื่น ๆ ไม่ว่าเป็นด้านเกษตร ด้านพลังงาน ด้านสาธารณสุข ด้านนวัตกรรมและการมีส่วนร่วม ฯลฯ ที่พร้อมร่วมกอบกู้ประเทศไทยด้วยกัน เพราะพรรคเพื่อไทย “คิดใหญ่ ทำเป็น”

ด้านนายเศรษฐากล่าวว่า ทีมเศรษฐกิจชุดนี้มีครบทุกด้าน มีผู้ชำนาญการทุกภาคส่วน เช่น ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องราคาพลังงานงานแพง ก็ต้องมี expert เข้ามา เช่นเดียวกับภาคการเกษตร ด้านการประมง ด้านเศรษฐกิจมหภาค ต้องมีให้ครบ แต่สำคัญที่สุดคือทุกคนที่มารวมอยู่ตรงนี้ต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง เอาปากท้องประชาชนเป็นที่ตั้ง

ทีมเศรษฐกิจชุดนี้ชัดเจน บอกได้ พูดได้ ตอบได้ ไม่ใช่เขาไม่ให้บอก เพราะเราถือว่าเราเสนอตัวมารับใช้ประชาชน คณะทำงานเศรษฐกิจเราต้องพร้อม คนเราต้องออกมาพูดเรื่องพวกนี้ เพราะเสนอตัวมาแล้ว

แต่ถ้าเราจะทำงานกันเป็นทีม ต้องไม่ใช่ทีมงานของผม ทีมงานของคุณอุ๊งอิ๊ง แต่เป็นทีมงานของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ต้องนั่งคนละห้อง คนละมุม ทำอะไรต้องเปิดเผย ตอบคำถามได้ ส่วนในอนาคตถ้าเป็นรัฐบาลทีมนี้จะเป็นทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรค