ประยุทธ์ ลั่น ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาแฮกเกอร์ 9near ยันไม่ช่วย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ประยุทธ์ ลั่น ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาแฮกเกอร์ 9near ด้วย ยันไม่ช่วย เนื่องจากเป็นการกระทำผิดรายบุคคล

วันที่ 14 เมษายน 2566 มติชนรายงาน ที่วัดหงส์รัตนาราม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีการดำเนินคดีกับแฮกเกอร์ 9near ซึ่งเป็นทหารยศจ่าสิบโท จะต้องส่งตัวให้ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการหรือไม่ว่า ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจค้นไป ซึ่งตนได้ย้ำแล้วว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาด้วย เขามีกระบวนการอยู่ไม่ใช่หรือจ๊ะ

เมื่อถามว่าจะมีการช่วยเหลือกันหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ถามกลับว่า แล้วใครจะช่วยล่ะ จะรู้ไหมเล่า ผมไม่ช่วยคนนึงล่ะ แล้วใครจะช่วยเล่า ก็เป็นเรื่องของการกระทำความผิดรายบุคคล ทั้งนี้กฎหมายก็มีอยู่แล้วก็สามารถที่จะแก้คดีได้ ทนายก็มีหมด

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มิน อ่อง ลาย ผู้นำเผด็จการทหารเมียนมา ติดต่อทางการไทย เพื่อขอให้ถอนรายชื่อลูกสาวออกจากคดี ที่เกี่ยวข้องกับผู้ค้าอาวุธข้ามชาติ พลเอกประยุทธ์ถามกับสื่อว่า ใครบอกล่ะ เรื่องนี้ตนยังไม่ได้ยินเลย เพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็ตามก็ต้องทำข้อเท็จจริงก่อนว่ามีหลักฐานไหม มีเอกสารหรือเรื่องมาหรือไม่ ถ้าไม่มีแล้วตนจะไปทำอะไรได้เล่า

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่มีบางพรรคการเมืองหาเสียงโดยใช้นโยบายจะแก้มาตรา 112 พลเอกประยุทธ์ถามกลับว่า แล้วพวกเราคิดอย่างไรเล่า ควรไหมเล่า เมื่อสื่อตอบกลับว่าไม่ควร พูดดังๆ แล้วเอาไปเขียนอ่านด้วยนะ ของเก่าต่อว่ามันไม่ใช่เรื่องไม่ใช่เวลา คนทั้งแผ่นดินเขาเทิดทูน แล้วคุณจะทำไปเพื่ออะไร

โดยก่อนพลเอกประยุทธ์​จะเดินทางไปยังวัดระฆังฯ​ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ทำอะไรตนก็นึกถึงประชาชน แม้ไม่ได้ไปเยี่ยมประชาชนทุกจังหวัด แต่ไปด้วย ถนน เส้นทางน้ำ รถไฟ ซึ่งเป็นผลงานที่ทำ เป็นการไปเยี่ยมแทนตัวเองในฐานะนายกรัฐมนตรี​ ก่อนจะถามสื่อมวลชนกลับว่า นี่ล่ะใครเป็นคนทำ

โดยพลเอกประยุทธ์ยังกล่าวย้ำว่าตนยังแข็งแรง​ ก่อนจะถามกลับสื่อมวลชนว่า แช่งตนทุกวันหรือ ตนเองแข็งแรงและอารมณ์ดีด้วย พร้อมทำท่าเบ่งกล้าม และกล่าวว่า หากใจไม่สู้จะอยู่มา 8 ปีหรือ ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากสื่อฯที่มารอส่ง พลเอกประยุทธ์​ขึ้นรถ​ ซึ่งระหว่างที่พลเอกประยุทธ์อยู่บนรถได้กล่าวติดตลกว่า​ รักนะจ๊ะ​ เมื่อกี้ลืมบอก