
ธนกร ดีล สมศักดิ์ ร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ที่สนามฟุตบอล ลั่นรวมไทยสร้างชาติไปทั้งพรรค-ไม่มีงูเห่า ไม่มีงูจงอาง เหน็บก้าวไกลเหมาะไปเป็นฝ่ายค้าน ย้ำประยุทธ์วางมือการเมือง-เลิกก็คือเลิก
วันที่ 11 สิงหาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ สส.ปาร์ตี้ลิสต์ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.ยุติธรรมและแกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่ามีการชักชวนเข้าร่วมรัฐบาล ว่าตนกับนายสมศักดิ์อยู่กันมานานเป็นเหมือนครอบครัว ไม่ว่าจะอยู่คนละพรรคกัน แต่ความสัมพันธ์ก็เหมือนเดิม ได้พูดคุยและพบกันบ่อยครั้ง มีกิจกรรมที่ชอบ เตะฟุตบอล ได้เจอกันอยู่แล้ว มีการคุยเรื่องการเมือง
- สพฐ.ประกาศหยุดเรียน 4-8 ธ.ค.ให้นักเรียน ม.ปลายเตรียมสอบ TGAT/TPAT
- MOTOR EXPO 2023 ยอดขายรถ 4 วันแรกทะลุ 8,300 คัน
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
“คุยกันว่าถ้ามาก็ต้องมาทั้งพรรค เป็นการส่งสัญญาณมาทางตน แต่ตนไม่ได้อยู่ในวงเจรจาของพรรค แต่คนที่จะเจรจาคือหัวหน้าพรรค ตนจึงทำได้แค่ส่งสัญญาณให้พรรคทราบ ว่าทิศทางการเมืองเป็นแบบนี้ ส่วนการตัดสินใจทางพรรครวมไทยสร้างชาติอาจมีการประสานงานกันอยู่แล้วแต่ตนไม่ทราบ เพราะหัวหน้าพรรคยังไม่ได้บอก ซึ่งนายสมศักดิ์ก็ไม่ได้บอกว่าคุยกับหัวหน้าพรรค เลขาฯพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ แต่เท่าที่ดูมีสัญญาณที่ดี แต่ตนเชื่อว่าการเมืองใกล้ถึงจุดที่จะจบแล้ว เท่าที่ดูบริบทต่าง ๆ คิดว่าอีกไม่นานคงจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในเวลาที่เหมาะสม” นายธนกรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติมีเงื่อนไขอะไรในการจะร่วมรัฐบาลเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี นายธนกรกล่าวว่ารวมไทยสร้างชาติมีการทำงานในสภาของ สส. 36 คน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เราทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว ส่วนการเจรจาต่อรองต่าง ๆ คงจะไม่มี เพราะทำงานได้อยู่แล้ว
เรามีแค่ 36 คน ไม่ใช่มีเป็น 100 คน มีการพูดคุยกัน แต่คงไม่ได้ไปต่อรองอะไร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติพรรค หากจะออกมาเป็นอย่างไร สส.ทั้ง 36 คนพร้อมทำตาม แม้ว่าวันนี้อาจจะมองว่ามีปัญหาอะไรในพรรคหรือไม่ มีการแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ นั้น เพราะมาจากหลากหลาย ความคิดเห็นแตกต่างก็เป็นเรื่องปกติ แต่เชื่อว่าคุยกันได้หมด
เมื่อถามว่าหากจะเข้าร่วมรัฐบาลถ้าไปก็ต้องไปทั้งพรรค 36 คน ไม่มีงูเห่าใช่หรือไม่ นายธนกร ยืนยันว่าตนมั่นใจว่าไม่มี ถ้าไปก็ต้องไปทั้งพรรค เพราะการเมืองควรเป็นอารยธรรมทางการเมืองที่ดี แม้ว่าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ไม่ควรที่จะมีงูเห่า งูจงอาง อะไรแล้ว
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับกรณีที่นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐออกมาแถลงข่าวจะร่วมโหวตให้กับพรรคเพื่อไทย เป็นการชิงความได้เปรียบทางการเมืองตัดหน้ารวมไทยสร้างชาติหรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า คิดว่าคงเป็นความชัดเจน ตนเข้าใจว่ามีการเจรจาหารือกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะตอบแบบให้หล่อให้สวยยังไงสื่อก็จะทราบดีอยู่แล้ว คงไม่ไปก้าวล่วงของพรรคพลังประชารัฐ
เมื่อถามว่าการตั้งรัฐบาลควรจะมีความชัดเจนก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายธนกรกล่าวว่า ตนคิดว่าทุกอย่างมันคงจะต้องจบก่อนโหวตนายกฯ การเจรจาไม่ว่าจะแสดงออกมาในภาพฉากทัศน์ไหน แต่ลึก ๆ สื่อก็ทราบดีอยู่แล้วว่าจะต้องมีการเจรจากันก่อน เพราะฉะนั้นมันจะไม่จบ แต่ถ้ามีการคุยนอกรอบก่อนและเจรจาจบแล้ว ทุกอย่างก็จะจบตามกระบวนการเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยประกาศสลายขั้วเพื่อตั้งรัฐบาลพิเศษนั้นมองอย่างไร เพราะเพื่อไทยยังมีพูดคุยกับพรรคก้าวไกลอยู่ด้วย นายธนกรระบุว่า
ตนคิดว่าวันนี้ก็ต้องเห็นใจพรรคเพื่อไทยด้วย เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง ส่วนตัวมองว่ามันอาจจะถึงเวลาที่สีต่าง ๆ ที่หลากหลายความขัดแย้งต่าง ๆ ควรจะยุติได้แล้ว และไม่ว่าพรรคไหนควรจะร่วมกันบริหารประเทศ และมีฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลนำสิ่งที่ดี ๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์วางรากฐานไว้ไปต่อยอด สร้างความเจริญให้กับประเทศมาก หากการเมืองนิ่ง ๆ
“วันนี้พรรคก้าวไกลก็ต้องยอมรับในกระบวนการ ไม่ใช่ว่าเสียงข้างมากได้มากที่สุดแล้วจะได้เป็นนายกฯ ถ้าจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็ต้องเป็นอันดับ 2 ไปเป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญ ตามกติกาสากลทั่วไป วันนี้อีกพรรคต้องเป็นรัฐบาล และอีกพรรคก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน เพื่อถ่วงดุลการบริหารประเทศ ส่วนตัวคิดว่าบางพรรคก็เหมาะที่จะเป็นฝ่ายค้านเพราะมีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบ เพราะฉะนั้นจะทำให้การเมืองมีความเข้มข้นมากขึ้น และเป็นระบบการถ่วงดุลประเทศจะได้เดินหน้าไปอย่างมั่นคง” นายธนกรกล่าว
นายธนกรกล่าวว่า ส่วนตัวหากมีปัญหาอะไร แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมจะไม่ยุ่งและเกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว เลิกก็คือเลิกเลย แต่ตนก็ยังไปปรึกษาในหลายเรื่องเพราะตนอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ มานาน
แม้ว่าเลิกเล่นการเมืองไปแล้ว ในอนาคตทางการเมืองของตนก็ยังมีการปรึกษาทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน ไม่ได้มีปัญหาอะไร และ พล.อ.ประยุทธ์ได้แนะนำในสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ทุกครั้งที่พูดไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ไหนท่านจะให้นึกถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก นึกถึงสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก ท่านพูดแบบนี้ตลอด