“บิ๊กตู่” นายกฯในใจ “สมคิด-สุเทพ” พรรคหนุนทหารขยับหลังสงกรานต์

ปรากฏการณ์ “สมคิดแฟกเตอร์” ในสมการการเมืองแรงไม่หยุด-ฉุดไม่อยู่ ภายหลัง “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ประกาศสนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย

“ท่านนายกฯประยุทธ์ ท่านเป็นคนดีนะ” นายสมคิดเผยความในใจ “อยากเชิญชวนให้คนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมกัน ถ้าชอบนายกฯประยุทธ์ก็สนับสนุนท่าน”

ขณะที่ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รมว.พาณิชย์ มือไม้นายสมคิดในทีมเศรษฐกิจ ผู้ถูกนายสมคิดกล่าวถึงก็ออกมายอมรับว่า

“พวกผมยังไม่มีการตั้งพรรค แต่มีการพูดคุยหารือกันในเส้นทางข้างหน้าที่รัฐบาลชุดนี้จะส่งมอบงานต่อ ซึ่งต้องเดินตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ”

“ในฐานะที่เป็นคนทำงานก็อยากให้การส่งผ่านเดินไปข้างหน้าอย่างราบรื่น การหารือกันนั้นก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ต้องการที่จะทำอย่างไรไม่ให้ประเทศชาติติดล็อก”

“ยอมรับว่ามีการพูดคุยกับนักการเมืองมาโดยตลอด แต่ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งพรรค”

การออกมา “เปิดใจ” ของ 1 ขุนพล 1 แม่ทัพเศรษฐกิจ ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้เส้นทางการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกคำรบของ พล.อ.ประยุทธ์ มีมากกว่า 1 ทางเลือก นอกจากการ “นอนมา” ในตำแหน่ง “นายกฯคนนอก” ที่มีเสียงสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สรรหาโดย คสช. 250 คน เป็นฐานเสียง

สอดรับกับความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการเดินสายลงพื้นที่ต่างจังหวัดเดือนละ 2 ครั้ง ในพื้นที่ฐานเสียงของอดีต ส.ส. อดีตหัวหน้ากลุ่ม หัวหน้ามุ้งต่าง ๆ ของพรรคการเมืองต่าง ๆ เกือบทั่วทุกภูมิภาค ทั้งในนาม “ครม.สัญจร” และการลงพื้นที่ตรวจราชการติดตามงานในวาระต่าง ๆ

โดยมี “สมคิด” ผู้มากคอนเน็กชั่น ทำหน้าที่เป็น “conductor” กลุ่มมุ้ง-วังต่าง ๆ มา “เข้าสังกัด” ทั้งในแบบพรรคการเมืองที่กำลังบวกลบคูณหารว่าจะกะเทาะเปลือกออกมาจากไข่รัฐบาล-คสช.เมื่อไร และในแบบ “แนวร่วม” โดยมี “พรรค กปปส.” ของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เป็น “พาวเวอร์แบงก์”

“แม้ผมไม่ประสงค์ที่จะมีตำแหน่งทางการเมือง แต่ก็มีหน้าที่เหมือนคนไทยทั้งหลายที่จะต้องเข้ามาดูแลงานการเมือง ให้กับประเทศไทย เพราะฉะนั้น ขอได้โปรดติดตามเรื่องนี้ต่อไปก็จะได้พบความเป็นจริง นวัตกรรมใหม่ ๆ ทางการเมือง” นายสุเทพเปิดใจระหว่างร่วมทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษาที่หอประชุมขวัญข้าว วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองขนาดกลาง นำโดยพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ที่มี “เสี่ยเน” เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เป็นผู้มีบารมีในพรรคและมีคอนเน็กชั่นในรัฐบาล คสช.

ความชัดเจนจะเกิดขึ้นหลัง “ครม.สัญจร” จังหวัดสุรินทร์ และบุรีรัมย์ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 หรือหลังสงกรานต์ว่า จะร่วมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหรือไม่

สำหรับพรรคปลาไหล-พรรคชาติไทยพัฒนา ของ “ลูกท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา ภายหลังขาดเสาหลักอย่าง “บรรหาร ศิลปอาชา” ไป ทำให้บั่นทอนกำลัง “ต่อรอง” ภายในพรรคไปพอสมควร

“ถ้าพรรคทหารได้เสียงข้างมากในสภา แล้วจัดตั้งรัฐบาล ถึงเวลานั้น คงต้องดูว่านโยบายพรรคเราจะสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศได้อย่างไร”

สุดท้ายแล้วอาจจะต้องใช้บริการ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาลก็เป็นได้

ขณะที่อีก 2 พรรคใหญ่ ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย แน่นอนแล้วว่า “กระดานแรก” จะไม่สนับสนุน “คนนอกพรรค” ให้เป็น “นายกฯคนนอก” แต่ไม้สุดท้ายก็ไม่แน่ว่าเพื่อความอยู่รอด-นโยบายของ “หัวหน้าเพื่อไทย” คนใหม่ จะมีทิศทางไปอย่างไร

บรรทัดสุดท้ายจะออกมาเป็นรัฐบาลแห่งชาติอย่างที่ “เสนาะ เทียนทอง” ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ที่เพิ่งลุกจากที่นอนออกมาพูดไล่เรียงกับความ “ฝัน” เห็น “ทักษิณ ชินวัตร” กลับบ้านหรือไม่

อีกทั้งการจองชื่อพรรคกับ กกต. ไม่มีกำหนดเดดไลน์ ต่างจากการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคที่ต้องทำภายใน 30 วัน

ดังนั้น หลังสงกรานต์ กระแสการตั้งพรรคหนุน “พล.อ.ประยุทธ์” จะขยับคึกคักอีกรอบ