วันที่ 9 ส.ค. ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.บรมราชชนนี ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีแขวงดุสิต เป็นโจทก์ฟ้อง นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นจำเลย ฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. 3/2557
จากกรณีเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2557 คสช. ได้แจ้งให้นายสมบัติ จำเลย เข้ารายงานตัวต่อ คสช.ที่หอประชุมกองทัพบก แต่ นายสมบัติไม่ยอมมารายงานตัวตามคำสั่ง และยังได้มีประกาศ คสช.ฉบับที่ 29/2557 ลงวันที่ 24 พ.ค. 2557 ให้นายสมบัติมารายงานตัว ซึ่งจำเลยได้รับทราบประกาศคำสั่งดังกล่าว แต่ก็ยังไม่มารายงานตัวตามคำสั่งโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง กระทั่งวันที่ 5 มิ.ย. 2557 เจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุมตัวนายสมบัติจากบ้านพักที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี จำเลยให้การปฏิเสธ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 วรรคหนึ่ง (เดิม) ให้ปรับ 500 บาท แต่ไม่ได้พิพากษาจำคุก โจทก์และจำเลยยืนอุทธรณ์
ต่อมาวันที่ 30 มิ.ย. 2559 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประกาศ คสช.เฉพาะที่ประกาศ คสช. ฉบับที่ 25/2557 และประกาศ คสช.ฉบับที่ 29/2557 อีกบทหนึ่ง เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานไม่มารายงานตัวตามคำสั่งและประกาศของ คสช. อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนังที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 ให้จำคุก 2 เดือน ปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 1 ปี
ในวันนี้ นายสมบัติเดินทางมาศาลพร้อมนายอานนท์ นำภา ทนายความ
ภายหลังอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา นายอานนท์เปิดเผยว่า ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกนายสมบัติ 2 เดือน ปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 1 ปี ส่วนเหตุผลในคำพิพากษานั้นคล้ายกับที่ศาลอุทธรณ์เคยมีคำพิพากษามาเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2559
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
