“บิ๊กตู่” จ่อใช้ ม.44 แก้ไพรมารีโหวต เปิดทางเลือกตั้ง ก.พ.62 บอกยืดได้อีก แต่อยากให้เร็ว

แฟ้มภาพ

“บิ๊กตู่” จ่อใช้ ม.44 แก้ไพรมารีโหวต เปิดทางเลือกตั้ง ก.พ.62 ชี้ เหมาะสุดแล้ว อยากให้เลือกเร็ว ทั้งที่ยืดออกไปได้อีก

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่าที่ประชุมไม่ได้มีการหารือเรื่องการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือสถานการณ์ ก่อนการปลดล็อกพรรคการเมืองในเดือนกันยายนนี้ เพราะหน้าที่ของเราคือการสร้างความสงบเรียบร้อยให้ประเทศ เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ฉะนั้นขึ้นอยู่กับคนหลายส่วน แต่ถ้าคนหนึ่งพยายามให้สงบ อีกคนหนึ่งพยายามให้ไม่สงบ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นใคร แต่ติดตามดูอยู่ทุกกลุ่ม ขออย่าทำให้บ้านเมืองสับสนอลหม่านก็แล้วกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขา สมช.ระบุช่วงนี้ต้องจับตาความเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียเป็นพิเศษ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องจับตาดูทุกอัน บางทีก็ขยายสร้างความขัดแย้ง โซเชียลมีเดีย ควรมีบทบาทสร้างการรับรู้ มากกว่าจะสร้างให้คนเป็น 2 พวก ตีกัน พวกเดียวกันเชียร์คนนี้ อีกพวกหนึ่งก็เชียร์คนนี้ และด่าอีกคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นการจะไปสู่ประชาธิปไตยในวันหน้า ต้องแก้ไขกันใหม่ ต้องสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนอย่างไร ให้สงบได้อย่างไร ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบก็ตาม แต่เราต้องยอมรับในกติกาของการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นการได้รัฐบาลมา ก็เท่ากับการยอมรับในเสียงส่วนมาก เสียงส่วนน้อย แต่รัฐบาลต้องทำหน้าที่เพื่อทั้งคนเสียงส่วนมาก และเสียงส่วนน้อย ไม่ว่าจะเป็นของพรรคใดก็ตาม หรือจะพรรคร่วมรัฐบาล หรือจะเป็นพรรคฝ่ายค้าน

“เรามีหน้าที่ดูแลทั้ง 2 ฝ่าย รัฐบาลต้องทำตัวแบบนี้ เช่นที่ผมไปต่างจังหวัดมา ผมไม่ได้มองว่าใครอยู่ตรงไหน อะไร อย่างไร ผมมองว่าประชาชนต้องการอะไร ไม่ว่าจะในพื้นที่ใดก็ตาม ส่วนใหญ่พรรคการเมืองจะมองเป็นพื้นที่ พื้นที่นี้ของเรา ของเขา เลยกลายเป็นความขัดแย้ง ความขัดแย้งเกิดขึ้นมา ไอ้พวกนี้ก็ไม่ได้ รัฐบาลต้องดูแลเสียงส่วนใหญ่ และต้องแก้ปัญหาดูแลคนส่วนน้อยไปด้วย อย่างเช่นเมื่อวานกลุ่มจังหวัดงบประมาณในการบูรณาการสร้างความเชื่อมโยงเหล่านี้ ไม่งั้นไม่ต่อเนื่องเหมือนเดิม เราก็ลงไปดูว่าแผนมีแค่ไหนอย่างไร และมาปรับเพิ่มเติม ส่วนจะได้เมื่อไหร่ ค่อยว่าอีกที เพราะมันขึ้นอยู่กับงบประมาณที่มีกับเวลาที่สามารถจะทำได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องจับตากลุ่มไหนเป็นพิเศษหรือไม่ในช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องติดตามดูในโซเชียลมีเดียว่าเขาเขียนว่าอย่างไร สื่อก็ช่วยติดตามบ้าง ไม่ควรปล่อยให้คนเขียนอะไรที่ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม และต้องประนามคนเหล่านั้น ไม่ใช่ทำให้เกิดความแตกแยก สื่อก็รู้ว่าเป็นกลุ่มใด จะมาถามให้พูดทำไม ก็ทุกกลุ่มนั่นแหละ อย่าไปกังวล

เมื่อถามว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้นำผลหารือกับกกต.เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม มารายงานหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า ก็หารือไปตามแนวทางที่ทำมาโดยตลอด สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องสอดคล้องกับการทำงานของรัฐบาล คสช.ในเรื่องการปลดล็อค และ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้งหมด ทั้งนี้ เราบอกไปแล้ว กำหนดเวลานั้นมีอยู่แล้ว โดยมี 150 วัน 120 วัน มี 90 วัน ตีเส้นแค่ตรงไหน นั่นคือเต็มเวลาตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นถ้าเรามาไล่ดู มันจะเลยจากที่ตนกำหนดไว้ด้วยซ้ำไป แต่ตนก็บอกว่า ถ้ามันเป็นไปได้ก็ต้องกุมภาพันธ์

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่านายวิษณุ ระบุเป็นอำนาจของท่าน ที่จะตัดสินใจมีการแก้ไข พ.ร.บ พรรคการเมือง ในเรื่องไพรมารีโหวต พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นอำนาจของตน ต้องเป็นไปตามนั้น เพราะเขียนไว้แล้วในกฎหมาย สำหรับไพรมารีโหวตนั้น ปีแรกจะมีปัญหาหรือไม่ จะต้องแก้ไขตรงนี้ อย่างไร เพื่อให้เรียบร้อย ทำไปได้ระดับหนึ่ง เพื่อไม่ให้ขัดแย้งกับกฎหมาย จากนั้น วันหน้า ก็ควรจะทำได้ 100% วันนี้หากถ้าตนทำอะไรมากๆ ก็กลายเป็นทำไม่ได้เลือกตั้งตามเวลา กลับมาที่ตน อีก ยืนยันว่า ต้องการให้ทุกอย่างเดินตามโรดแมปเลือกตั้งกุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเหมาะสมแล้ว ทั้งที่เวลายังยืดออกไปอีกได้ แต่ตนก็ลดให้น้อยที่สุด

เมื่อถามว่าจะใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ไขหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็นี่ไงก็กำลังจะแก้ ก็ใช้อำนาจผมไม่ใช่เหรอ มาถามอะไรผมอีก อะไรที่มีปัญหาผมก็แก้ให้หมดแหละ นั่นเเหละคือสิ่งที่ผมจะใช้อำนาจตรงนี้ เพื่อแก้ให้สามารถทำงานได้ อย่างน้อยถ้าไม่ได้ 100% จะเอาแค่ไหน 50 60 70 เปอร์เซนต์ ของกฎหมายได้ไหม นั่นแหละประโยชน์ของตรงนี้ เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งอย่างที่ทุกคนต้องการ ให้มันสงบสุข ไม่ใช่ทุกคนมาบอกว่าเป็นหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทำให้เรียบร้อย และทำให้เลือกตั้งได้เร็วกว่านี้ ก็กฎหมายเขาเขียนมาอย่างนี้ ก็ปรับเวลาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริงด้วย ผมไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร อย่าเอารัฐบาล คสช. ลงไปเป็นคู่ขัดแย้ง ไม่เช่นนั้นผมจะอยู่ตรงกลางได้อย่างไร การเมืองยังไม่ได้เริ่ม ปี่กลองเริ่มประโคมกันไปแล้ว ยังไม่ถึงยก 3 เลย”

เมื่อย้ำถามว่า ตกลงจะใช้มาตรา 44 หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขายื่นมาเมื่อไหร่ ก็เซ็นเมื่อนั้น

 

ที่มา : มติชนออนไลน์