“ธนาธร” ลั่นเดินหน้ารับบริจาคต่อ เหตุกม.ไม่ชัด“ปิยบุตร”ชี้ คำสั่งคสช.ไม่คลุมนักการเมืองใหม่

แฟ้มภาพ

“ธนาธร” ลั่นเดินหน้ารับบริจาคต่อ ชี้ กม.ไม่ชัด ด้าน “ปิยบุตร” ชี้คำสั่ง คสช. 2 ฉบับไม่คลุมนักการเมืองใหม่ รอ กกต.ออกคำสั่งชัด พร้อมยื่นศาลปกครองขอเพิกถอน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 ตุลาคม ที่อาคารไทยซัมมิท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ร่วมแถลงถึงความคืบหน้าการดำเนินกิจกรรมของพรรค พร้อมประกาศจุดยืน เกี่ยวกับการระดมทุน

นายธนาธรกล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความกังวลสงสัย จากสาธารณชนและสมาชิกพรรคว่า ตกลงสามารถระดมทุนเพื่อบริจาคเข้าพรรคได้หรือไม่ ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่มีแนวทางการดำเนินการระดมทุนได้แก่ 1.การรับสมัครสมาชิก เราได้มีการเปลี่ยนแปลง เป็น 3 ประเภท คือ สมาชิกแบบรายปี 100 บาท สมาชิกแบบตลอดชีพ 2,000 บาท และสมาชิกแบบตลอดชีพอุปถัมภ์ตั้งแต่ 3000-10,000 บาท เพื่อเป็นการเปิดกว้าง 2.การจำหน่ายสินค้า เราจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องผ่าน 3 ช่องทางได้แก่ ช่องทางการซื้อที่สำนักงานใหญ่ และสำนักงานจังหวัด ช่องทางโทรศัพท์ และช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ตามปกติ 3.การรับบริจาคเงินเข้าพรรคทั้งทางออนไลน์และตัวบุคคล ทั้งนี้ในเมื่อการรับบริจาคความชัดเจนทางกฎหมายยังไม่มี เราจะเปิดให้มีการระดมทุนโดยการบริจาคอีกครั้งทันที และ 4.จัดกิจกรรมระดมทุนต่างๆในเดือน พฤศจิกายน และธันวาคม อาทิ กิจกรรมงานลอยกระทงเพื่ออนาคต และงานวัด ที่สนามกอล์ฟพัฒนา&รีสอร์ท ศรีราชา จ.ชลบุรี วันที่ 23 พฤศจิกายน, กิจกรรมกอล์ฟเพื่ออนาคต วันที่ 2 ธันวาคม และกิจกรรมงานวิ่งกับ “ป็อก” จ็อกกับ “เอก” วิ่งสู่อนาคตใหม่ ในวันที่ 8 ธันวาคม เพื่อให้เกิดช่องทางต่างๆ ที่สมาชิกได้ทำกิจกรรมร่วมกับพร้อมไปกับการระดมทุน

“หากเงินที่นำมาใช้กิจกรรม เป็นเงินของสมาชิก ทางผู้บริหารพรรคต้องทำงานเพื่อรับใช้เจตจำนงค์ของสมาชิกพรรค ซึ่งเราสามารถทำได้ เพราะเราไม่ได้นำเงินเหล่านี้มาจากกลุ่มทุน เพื่อให้พรรคของเราป็นอิสระ เมื่อมีการตัดสินใจสำคัญ” นายธนาธรกล่าว

ด้านนายปิยบุตร กล่าวถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับการบริจาค ว่า คนใช้กฎหมายแต่ละคนต้องตีความกฎหมายก่อนจะนำไปใช้ ซึ่งต่างฝ่ายต่างตีความไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะ คำสั่งคสช.ที่ 57/2557 และ 53/2560 ซึ่งระบุว่า ห้ามมีการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง แต่หากไปอ่านให้ดีจะพบว่า คำสั่งที่ 57/2557 พูดถึงพรรคการเมือง ที่มีอยู่เดิม ไม่ได้รวมถึงพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งพรรคของเราไม่ได้อยู่ในขอบข่ายของคำสั่งดังกล่าว ขณะที่คำสั่งที่ 53/2560 ระบุว่า พรรคการเมืองตามพ.ร.ป.ว่าด้วย พรรคการเมืองมาตรา 140 หมายถึงพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นตามกฎหมายปี 2550 แต่พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่เกิดขึ้นตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ปี 2560 ดังนั้นคำสั่งที่ 53/2560 จึงไม่ครอบคลุมพรรคอนาคตใหม่เช่นเดียวกัน ข้อห้ามทั้งหมดจึงไม่เกี่ยวข้องกับเรา

นายปิยบุตรกล่าวว่า จากคำสั่ง 57/2557 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้วางแนวทางการตีความกฎหมายของตนเอง โดยเฉพาะส่วนของกิจการที่ทำไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องการรับบริจาค ซึ่งแนวทางของกกต.บอกว่า การรับบริจาค ทำได้จากการรับบริจาคจากกรรมการบริหารพรรค หรือ กรรมการสาขาพรรค เท่านั้น โดย ไม่เกิน 10 ล้านบาท ต่อคน ต่อปี แต่ในคำสั่งดังกล่าวไม่ได้ระบุถึงรายละเอียด ซึ่งทาง กกต.เป็นผู้วางแนวทางออกไปเอง ซึ่งตนขอเรียกร้องไปถึง กกต.ให้ระบุให้ชัดเจน ว่ารับบริจาคได้หรือไม่ได้ หากไม่ขยายการตีความ ก็ช่วยออกคำสั่งห้ามพรรคอนาคตใหม่ให้ชัดว่าห้ามรับบริจาค จากนั้นเราจะได้ขอใช้สิทธิ์เพิกถอนคำสั่งนี้ต่อศาลปกครองต่อไป

“คำสั่ง คสช.ทั้ง 2 ฉบับ ไม่รวมถึงพรรคการเมืองใหม่ และคำว่าห้ามดำเนินกิจการทางการเมือง ไม่ได้บอกอย่างละเอียด แต่เป็น กกต.ตีความเอง ซึ่งหมายความว่า โดยนัยยะของคำสั่ง คสช.นั้น ไม่ได้ห้ามเราดำเนินการ แต่ขึ้นกับการตีความของ กกต.ทั้งสิ้น จึงขอให้ กกต.ออกคำสั่งให้ชัดเจน อย่าใช้ระบบยกหูโทรศัพท์เตือน กลายเป็นว่าประเทศนี้ปกครองด้วยกฎหมาย หรือปกครองด้วยความเห็นทางกฎหมายของแต่ละคนกันแน่ ” นายปิยบุตรกล่าว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์