เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร รักษาการแทนคณบดี สำนักวิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เปิดเผยถึงแนวทางแก้ปัญหากรรมการสภามหาวิทยาลัยแห่ลาออกจากกรณีประกาศ ป.ป.ช. เรื่องการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบางตำแหน่งต้องแจ้งทรัพย์สินแก่ ป.ป.ช. ว่าวันนี้ทางออกของการแก้ไขคงเป็นไปได้ 3 ทาง คือ 1.การชะลอการบังคับใช้ประกาศ 2.การแก้ไขกฎหมายที่นำไปสู่การแก้ประกาศ และ 3.การใช้อำนาจพิเศษเพื่อยกเว้นการบังคับใช้ประกาศบางมาตรา
โดยทางแรก การชะลอการใช้ประกาศ จากที่จะมีผลตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2561 ออกไปอีกระยะหนึ่ง อาจจะสามเดือนหกเดือน ช่วยได้ในการบรรเทาอาการตื่นตระหนกการลาออกแบบกะทันหัน จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถประชุมสภามหาวิทยาลัยในช่วงนี้ได้ สามารถทำให้กรรมการสภาจำนวนหนึ่งมีเวลาในการตระเตรียมเอกสาร และประเมินความพร้อมของตนว่าจะลาออกหรือไม่ ในขณะที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยก็สามารถเตรียมทาบทามบุคคลอย่างไม่เป็นทางการมาเป็นกรรมการสภา เพื่อให้กระบวนการสรรหาคนใหม่ หลังจากการลาออกมีช่องว่างของเวลาน้อยที่สุด ในกรณีนี้สามารถแก้ปัญหาระยะสั้นได้ แต่ต้องประเมินถึงผลกระทบระยะยาว
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
นายสมชัยกล่าวต่อว่า ทางที่สอง การแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. ให้มีความชัดเจนเกี่ยวกับนิยามคำว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” และ “ผู้บริหารระดับสูง” ว่ามีความหมายครอบคลุมหรือไม่ครอบคลุมยังตำแหน่งลักษณะใดบ้าง ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ฝ่ายคณะรัฐมนตรีในฐานะผู้ใช้อำนาจบริหารต้องปรึกษาหารือกับ ป.ป.ช. เพื่อให้ ป.ป.ช.เสนอเรื่องผ่าน ครม. นำเข้าสภานิติบัญญัติ ก่อนประกาศใช้เป็นกฎหมาย หลังจากนั้น ป.ป.ช.จึงออกประกาศแก้ไขประกาศของตน กระบวนการดังกล่าวน่าจะต้องใช้เวลาประมาณหกเดือน ซึ่งอาจไม่ทันในรัฐบาลนี้ และกว่าจะดำเนินการได้ กรรมการสภาคงลาออกทั้งประเทศแล้ว
นายสมชัยกล่าวอีกว่า ทางที่สาม การใช้อำนาจพิเศษ ม.44 ของ คสช. ในการประกาศให้ยกเว้นการบังคับใช้ประกาศของ ป.ป.ช. ในตำแหน่งบางตำแหน่ง ซึ่งสามารถทำได้เลย แต่ต้องทำก่อนวันที่ 1 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่ประกาศ ป.ป.ช. มีผลใช้บังคับ ซึ่งจะช่วยยุติปัญหาดังกล่าวได้ แต่ต้องยอมให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่า ร่างกฎหมายไม่รอบคอบจนเป็นปัญหา ทำให้ต้องใช้อำนาจพิเศษอยู่ร่ำไป
“ทุกทางขึ้นอยู่กับใจของ คสช. ครม. และ ป.ป.ช. ว่าจะเห็นปัญหาและเห็นว่าจะใช้แนวทางใดในการแก้ไข ส่วนประชาชนอย่างเราแค่ทำใจ ส่วนผมหากประกาศมีผลใช้บังคับ คงเตรียมใจเป็นกรรมการสภา หากมีการทาบทามมา เพราะผมพร้อมยื่นทรัพย์สิน” นายสมชัยกล่าว